ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

เรื่องเล่าเช้าวันจันทร์ “ศัตรูมะพร้าวและการป้องกัน” ปัจจุบันมีศัตรูมะพร้าวที่กำลังระบาดและเป็นปัญหาในการปลูกมะพร้าว จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ หนอนหัวดำมะพร้าว แมลงดำหนามมะพร้าว ด้วงแรดมะพร้าว และด้วงงวงมะพร้าว สำหรับการจัดการศัตรูมะพร้าว เพื่อให้ได้ผลดีและไม่ให้กลับมาระบาดใหม่ ควรใช้วิธีการป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสานตั้งแต่ 2 วิธีขึ้นไปมาใช้ร่วมกัน เพื่อลดปริมาณศัตรูมะพร้าวให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย การป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสานคลิกอ่าน : https://bit.ly/2FUDSWS หนอนหัวดำคลิกอ่าน :

เรื่องเล่าเช้าวันจันทร์ “เรื่องเล่า…ชาวกาแฟ กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกที่จะต้องดื่ม บางคนดื่มเพราะความเคยชิน บางคนดื่มเพื่อผ่อนคลาย บางคนดื่มเพราะจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า “กาแฟ” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทางเศรษฐกิจของไทยมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน สายพันธุ์ที่นิยมในประเทศไทย 2 สายพันธุ์ คือ กาแฟอะราบิกาและกาแฟโรบัสตา เมื่อเปรียบเทียบลักษณะเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์ อยากรู้เรื่องราวของกาแฟมากขึ้น คลิกที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ เรื่องเล่า…ชาวกาแฟคลิกอ่าน : https://bit.ly/4hmR8PA การผลิตกาแฟอะราบิกา

หนอนแมลงวันพริก การทำลายในระยะเริ่มแรกจะสังเกตได้ยาก อาจพบอาการช้ำบริเวณใต้ผิวเปลือก เมื่อหนอนโตขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ผลเน่าเละและมีน้ำไหลเยิ้มออกทางรูที่หนอนเจาะออกมาเพื่อเข้าดักแด้ในดิน นอกจากนี้รอยแผลที่เกิดขึ้นจากการวางไข่ของแมลงยังส่งผลให้เชื้อจุลินทรีย์สาเหตุโรคพืชเข้าทำลายตาม ทำให้ผลเน่าและร่วงหล่นก่อนระยะเก็บเกี่ยว ฤดูการระบาดสภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเตือนผู้ปลูกพริก ในระยะเก็บเกี่ยว รับมือแมลงวันทองพริก ตัวเต็มวัยวางไข่ในระยะพริกใกล้เปลี่ยนสี ไปจนกระทั่งผลสุก หนอนกัดกินชอนไชอยู่ภายในผล ทำให้ผลพริกเน่าร่วงหล่น เมื่อหนอนโตเต็มที่จะเจาะออกมาเข้าดักแด้ในดิน แนวทางป้องกัน/แก้ไข เรียบเรียงโดย : กลุ่มอารักขาพืช

หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ลักษณะอาการหนอนชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศมาเลเซีย แล้วระบาดเข้ามาทางภาคใต้ของประเทศไทย การนำเมล็ดพันธุ์จากทางภาคใต้มาเป็นเหตุทำให้หนอนชนิดนี้ติดมาด้วย เกษตรกรจึงเรียกหนอนชนิดนี้ว่า “หนอนใต้” หรือ “หนอนมาเลย์” หนอนชนิดนี้เมื่อเข้าทำลายผลทุเรียนจะไม่สามารถสังเกตจากลักษณะภายนอกได้ หนอนที่เจาะเข้าไปในผลทุเรียนถ่ายมูลออกมาปะปนอยู่กับเนื้อทุเรียน ทำให้เกษตรกรไม่สามารถขายเนื้อทุเรียนสดได้ การแพร่ระบาดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนแพร่ระบาดในพื้นที่ปลูกทุเรียนของภาคใต้และภาคตะวันออก (ระยอง จันทบุรี ตราด) โดยพบระบาดมากระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม แนวทางป้องกัน/แก้ไข เรียบเรียงโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตราด

หนอนชอนใบผัก

หนอนชอนใบผัก การทำลายแมลงวันขนาดเล็ก มีสีดำเหลือง ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ใต้ผิวใบตัวหนอนมีลักษณะหัวแหลมท้ายป้าน โดยชอนไชภายในใบ ทำให้เกิดรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา หากระบาดรุนแรงจะทำให้ใบเสียหายร่วงหล่น และตายได้ สามารถเข้าทำลายพืชผักได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูล กะหล่ำ ต้นหอม มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะระ พริก บวบ กระเจี๊ยบเขียว โหระพา แมงลัก รวมถึง

ฟางข้าว=ปุ๋ย

ฟางข้าว=ปุ๋ย นาข้าว 1 ไร่ มีตอซังและฟางข้าว 650 กิโลกรัม >ธาตุอาหารหลัก 23 กิโลกรัม มูลค่า 725 บาท ปริมาณและมูลค่าของธาตุอาหารหลักในตอซังและฟางข้าว มีดังนี้ ***การใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายร่วมกับการไถกลบ ทำให้ตอซังข้าวนิ่ม ไถกลบได้ง่ายขึ้น*** จัดทำโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี

ขอเชิญชวนเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรและผู้รักการอ่านทุกท่าน อ่านหนังสือ e-Book ฟรี ผ่าน แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ HIBRARY ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตรออนไลน์ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรลงทะเบียนสมาชิกใหม่ >> https://forms.gle/9SEhGQz442Me4CAW8 บุคคลทั่วไปที่รักการอ่านลงทะเบียนสมาชิกใหม่ >> https://forms.gle/mjbJ9ikMD4SJ4RGE7 การเข้าใช้งาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นข้อมูลห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์กรมส่งเสริมการเกษตร (e-Library )ได้ที่ http://library.doae.go.th

เตือนเกษตรกรงดใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผึ้งและแมลงผสมเกสรช่วงดอกลำไยระยะเริ่มบาน ผึ้งมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการถ่ายละอองเรณูของพืชดอก ขณะที่ผึ้งตอมดอกไม้เพื่อดูดกินน้ำหวานในดอกไม้ ละอองเรณู จะติดไปกับส่วนต่าง ๆ ของผึ้ง เช่น ปีก ขา และส่วนปาก


โรคราสนิมในอ้อย

สาเหตุ : เชื้อรา Puccinia melanocephala

เชื้อราสาเหตุโรคสามารถพักตัวในเศษซากพืช เกิดโรคข้ามฤดู และสามารถแพร่กระจายผ่านลมและน้ำ

อาการ : ใบอ่อนพบจุดแผลขนาดเล็กสีแดง เมื่อใบแก่จุดแผลจะขยายออกเป็นสีน้ำตาลแดง (สีสนิม) มีวงสีเหลืองล้อมรอบ ใต้ใบมีแผลนูน เมื่อแผลแตกออก มีลักษณะขรุขระ พบผงสปอร์สีน้ำตาลแดง (สีสนิม)

การป้องกัน

  1. สำรวจแปลงอ้อยช่วงฤดูหนาว หรือสภาพที่มีความชื้นสูง จำนวน 10 จุดต่อไร่ (จุดละ 1 ต้น/กอ) ทั่วแปลง อ้อยอายุ 3-6 เดือน เป็นระยะที่อ่อนแอต่อโรคราสนิม
  2. ใช้พันธุ์อ้อยที่ต้านทานต่อโรค เช่น พันธุ์อู่ทอง 2 พันธุ์อู่ทอง 4 และพันธุ์ K90-77
  3. กำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูก และกำจัดส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลง
  4. ปรับดินไม่ให้เป็นกรด ให้มีค่า pH ตั้งแต่ 5.5-7.0 โดยเติมปูนขาวหรือไดโลไมท์
  5. งดใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง อาจจะทำให้อาการโรคราสนิมมากขึ้น
  6. ใช้สารเคมีป้องกันก่อนเกิดโรคให้ใช้คลอโรธาโรนิล 75% WP อัตรา 10-20 กรัม, แมนโคเซบ 80% WP อัตรา 40 กรัม ส่วนการควบคุมโรคระยะไม่รุนแรงให้ใช้ไพราโคลสโตรบิน+อีพอกซีโคนาโซล 13.3+5% SE อัตรา 10-20 มล.

*พ่นทุก ๆ 10-14 วัน **อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร

เรียบเรียงโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร

โรคราสนิมในอ้อย
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/โรคราสนิมอ้อย.png