ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

ขอเชิญชวนเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรและผู้รักการอ่านทุกท่าน อ่านหนังสือ e-Book ฟรี ผ่าน แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ HIBRARY ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตรออนไลน์ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรลงทะเบียนสมาชิกใหม่ >> https://forms.gle/9SEhGQz442Me4CAW8 บุคคลทั่วไปที่รักการอ่านลงทะเบียนสมาชิกใหม่ >> https://forms.gle/mjbJ9ikMD4SJ4RGE7 การเข้าใช้งาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นข้อมูลห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์กรมส่งเสริมการเกษตร (e-Library )ได้ที่ http://library.doae.go.th

เตือนเกษตรกรงดใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผึ้งและแมลงผสมเกสรช่วงดอกลำไยระยะเริ่มบาน ผึ้งมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการถ่ายละอองเรณูของพืชดอก ขณะที่ผึ้งตอมดอกไม้เพื่อดูดกินน้ำหวานในดอกไม้ ละอองเรณู จะติดไปกับส่วนต่าง ๆ ของผึ้ง เช่น ปีก ขา และส่วนปาก

หนังสือ Thai Textiles Trend Book Spring / Summer 2025 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาเป็นบรรณาธิการบริหาร หนังสือ Thai Textiles Trend Book Spring / Summer 2025

น้ำหมักนมชีวภาพ นายหลบภัย สุขประดิษฐ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรระดับอำเภอวังน้ำเย็น (ศพก. อำเภอวังน้ำเย็น) มีอาชีพหลัก คือ การทำฟาร์มโคนม และปลูกพืชผักปลอดภัย ในการบริหารจัดการฟาร์ม เรื่องของน้ำนมดิบจากแม่โคที่คลอดลูกออกมาใหม่ จนมีน้ำนมเหลือเกินที่เลี้ยงลูกโคนม นายหลบภัย สุขประดิษฐ ประธานฯ จึงหาแนวทางการใช้ประโยชน์จากน้ำนมโคจึงได้ทำเป็น “น้ำหมักนมชีวภาพ” วัตถุดิบ วิธีทำนำน้ำนมสด (น้ำนมเหลือง) เทลงในถังพลาสติกที่เตรียมไว้

การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการค้า พันธุ์ที่นิยมเลี้ยง วิธีการเลี้ยง การเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์ ระยะเลี้ยงและการขาย การเก็บผลผลิต วิธีทำยำจิ้งหรีดแบบง่าย ๆวัตถุดิบ : วิธีทำ จัดทำโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

การใช้ประโยชน์จากต้นจาก 1.ใบจากนำมาใช้ห่อขนมหรือที่เรียกกันว่าขนมจาก นำมาจักสานเป็นภาชนะต่าง ๆ เช่น ตะกร้าสานจากใบจาก นำมาทำเป็นมุงจาก มุงหลังคากันฝน กันแดด 2.ทางจากนำมาเย็บทำเป็นตับจาก นำมามุงหลังคากั้นฝาบ้าน ทำเป็นพื้นกระท่อม ใช้กั้นคอกมัดรวมกันใช้รองเป็นทางเดินตามโคลนตม 3.ผลจาก (โหม่งจาก)เนื้อข้างในเรียกว่าลูกจาก สามารถนำมารับประทานสด หรือนำมาทำเป็นขนมหวานและขนมต่าง ๆ มากมาย เช่น ลูกจาก ลอยแก้ว

ศพก.เครือข่าย สวนนายโญ เมล่อนคุณภาพในโรงเรือน โดย นายภิญโญ พงษ์โชติ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรเครือข่าย สวนนายโญแหล่งผลิตเมล่อนคุณภาพที่ผ่านการรับรองมาตฐาน GAP ของดีอำเภอเขาฉกรรจ์ปลอดภัยได้มาตรฐาน และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : เฟซบุ๊ก สวนนายโญเขาฉกรรจ์ จัดทำโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอเขาฉกรรจ์

เตือนเฝ้าระวัง! โรคใบขาวอ้อย แมลงพาหะ : เพลี้ยจักจั่น การจัดการโรคใบขาวอ้อย 1.หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ/กำจัดเชื้อ/ลดปริมาณเชื้อ 2.อ้อยปลอดโรค/ปลอดเชื้อไฟโตพลาสมา 3.พันธุ์ต้านทาน/พันธุ์ทนทาน : ยังไม่มีพันธุ์ต้านทานโรคที่ปลูกเป็นการค้า 4.มาตรการกักกัน/กฎหมาย : ควบคุมการนำเข้าท่อนพันธุ์ 5.อ้อยดัดแปลงพันธุกรรม/อ้อยปรับแต่งจีโนม : ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้ปลูก ที่มา : ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดพิษณุโลก มีนาคม

โรคราน้ำค้างพืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด

โรคราน้ำค้างพืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด

เป็นโรคพืชที่พบการระบาดมากในช่วงอากาศเย็น ความชื้นสูง และฝนตกชุก เนื่องจากเชื้อราสาเหตุโรคสามารถแพร่ระบาดได้ดีโดย ลม น้ำฝน เครื่องมือทางการเกษตร การเคลื่อนย้ายพืชปลูก และจะเจริญได้ดีในสภาพอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ ความชื้นในแปลงสูง หากเข้าทำลายพืชปลูกจะสร้างความเสียหายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต จะทำให้ผลผลิตพืชลดลง รวมถึงขนาดและคุณภาพลดลง หากอาการรุนแรงจะทำให้ใบเหลืองและแห้งตายทั้งต้น นอกจากนี้โรคราน้ำค้างยังสามารถเข้าทำลายพืชได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด เป็นต้น ส่วนข้อสังเกตของโรคราน้ำค้าง พบว่าในช่วงเช้าที่มีอากาศค่อนข้างเย็นและมีความชื้นสูง เมื่อพลิกดูใต้ใบพืชมักจะพบส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อรา เป็นเส้นใยสีขาวหรือเทาคล้ายปุยฝ้าย และลักษณะอาการโรคของพืชบางชนิด จะถูกจํากัดด้วยเส้นใบ จึงเห็นเป็นจุดแผลรูปสี่เหลี่ยม สำหรับโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง เช่น แตงกวา แตงร้าน แตงโม แตงไทย เมล่อน แคนตาลูป ซูกินี ฟักทอง ฟักเขียว ฟักแม้ว มะระจีน และบวบ เกิดจากเชื้อรา Pseudoperonospora cubensis มักพบอาการของโรคบนใบที่อยู่บริเวณด้านล่างของต้นก่อน แล้วขยายลุกลามไปยังใบที่อยู่

หนอนคืบกินใบเงาะ

หนอนคืบกินใบเงาะ

หนอนคืบกินใบเงาะ ชื่อวิทยาศาสตร์ Oxyodes scrobiculata (Fabricius) รูปร่างลักษณะหนอนคืบกินใบ ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน สีน้ำตาลอ่อน ลำตัวมีขนสีเหลืองปกคลุม ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่เป็นฟองเดี่ยว ๆ ตามใบอ่อน ยอดอ่อน ลักษณะการทำลายหนอนคืบกินใบสามารถทำความเสียหายให้กับพืชได้มากในระยะแตกใบอ่อน โดยตัวหนอนที่ออกจากไข่จะเริ่มกัดกินใบอ่อน และเมื่อตัวหนอนโตขึ้นจะกินทั้งใบอ่อน ใบเพสลาดและใบแก่ วิธีป้องกันกำจัด 1.อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ 2.หมั่นสำรวจแปลงสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในระยะแตกใบอ่อน ถ้าหากโคนต้นเงาะโล่งเตียนไม่มีหญ้า ให้เขย่ากิ่งเงาะ ตัวหนอนคืบจะทิ้งตัวลงที่พื้นดิน สามารถจับทำลายได้ หรือใช้กับดักแสง ไฟล่อตัวเต็มวัยในช่วงกลางคืน (18.00 น. ถึง 20.00 น.) 3.ใช้สารสกัดสะเดา โดยนำเมล็ดสะเดาบด 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นนำสารสะเดาที่ได้ผสมกับสารจับใบไปฉีดพ่นให้ทั่วยอดอ่อนและทรงพุ่ม 4.พ่นเชื้อราบิวเวอเรีย อัตรา 250 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบบริเวณใบอ่อน และทรงพุ่ม ทุก 3-7 วัน 5.พ่นด้วยสารเคมี เช่น carbaryl 85% WP อัตรา 45-60 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ที่มา

โรคไหม้ในข้าว

โรคไหม้ในข้าว

โรคไหม้ (Rice Blast Disease) พบทุกภาคในประเทศไทย ในข้าวนาสวน ทั้งนาปีและนาปรัง และข้าวไร่ ระยะกล้า ใบมีแผล จุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล ความกว้างของแผลประมาณ 2-5 มิลลิเมตร และความยาวประมาณ 10-15 มิลลิเมตร แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ ถ้าโรครุนแรงกล้าข้าวจะแห้งฟุบตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้อาการ ระยะแตกกอ อาการพบได้ที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น ขนาดแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ที่บริเวณข้อต่อ ใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดจากกาบใบเสมอ ระยะออกรวง (โรคไหม้คอรวง หรือ โรคเน่าคอรวง) ถ้าข้าวเพิ่งจะเริ่มให้รวง เมื่อถูกเชื้อราเข้าทำลาย เมล็ดจะลีบหมด แต่ถ้าเป็นโรคตอนรวงข้าวแก่ใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยแผลช้ำสีน้ำตาลที่บริเวณคอรวง ทำให้เปราะหักง่าย รวงข้าวร่วงหล่นเสียหายมาก การแพร่ระบาด พบโรคในแปลงที่ต้นข้าวหนาแน่น ทำให้อับลม ถ้าใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงและมีสภาพแห้งในตอนกลางวันและชื้นจัดในตอนกลางคืน น้ำค้างยาวนานถึงตอนสายราว 9 โมง อากาศค่อนข้างเย็น การป้องกันกำจัด ใช้พันธุ์ค่อนข้างต้านทานโรค ภาคกลาง เช่น สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 60 ปราจีนบุรี 1

หนอนด้วงกัดรากข้าว

หนอนด้วงกัดรากข้าว

พบตามโคก ใกล้จอมปลวก หากระบาดมาก พบได้ทั่วทั้งแปลงที่ดินแห้ง ถ้าเจอในนา กัดบริเวณโคนต้น หรือรากข้าว แสดงว่าน้ำในนาแห้ง วิธีป้องกันกำจัด1. เขตกรรม ไขน้ำเข้านา (กรณีมีน้ำเพียงพอ)2. วิธีกล เก็บทำลาย3. ชีววิธี โรยด้วยเชื้อราเมตาไรเซียม4. สารเคมีชนิดหว่านลงดิน (G,GR) – กลุ่ม 2 ฟิโพรนิล – กลุ่ม 14 + 1 คาร์แทปไฮโดรคลอไรด์ + ฟีโนบูคาร์บ – กลุ่ม 4A ไดโนทีฟูแรน ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์https://www.facebook.com/share/4QtH828jBnFKsnTW/?mibextid=oFDknk

โรคใบจุดตากบ

โรคใบจุดตากบ

โรคใบจุดตากบ มีการเข้าทำลายในทุกระยะการเจริญเติบโต ซึ่งเริ่มแรกแผลมีลักษณะเป็นจุดฉ่ำน้ำ สีน้ำตาลอ่อน ต่อมาแผลขยายใหญ่มีลักษณะกลมหรือค่อนข้างกลม เรียงซ้อนกันเป็นชั้น กลางแผลมีสีเทาหรือสีขาว ขอบแผลเป็นสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายตากบ แผลมีหลายขนาดตั้งแต่จุดเล็กถึงจุดใหญ่ ขนาด 1-10 มิลลิเมตร เกิดกระจายทั่วใบ ถ้าอาการรุนแรงแผลจะลามขยายติดกันทำให้ใบไหม้ หากเกิดกับใบอ่อนอาจทำให้เกิดอาการใบหงิกงอ เบื้องต้นได้ให้คำแนะนำเกษตรกรในเรื่องของการปรับสภาพดินที่มีอาการค่อนข้างเป็นกรค พร้อมนำเมล็กผักแช่ในเชื้อราไตรโครเดอร์มาก่อนปลูกและรดซ้ำในระหว่างการปลูก เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อราดังกล่าวต่อไป ภาพจาก : สำนักงานเกษตรอำเภอทุ่งหว้า สตูล https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02VrGLMXhREaGr8JPqxQAyFz5xwznVcXK8yDqvrvTFGFYU3iLau6ziHua9NqwuPCgrl&id=100007766978925