โรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง
สาเหตุเกิดจากเชื้อรา : Pseudoperonospora cubensis
อาการเริ่มแรกพบจุดสีเหลืองหรือน้ำตาลขนาดเล็ก และขยายใหญ่ขึ้นเป็นปื้นสีเหลือง โดยจะพบที่ใบล่าง ใบแก่หรือโคนเถา ในเวลาเช้ามืดจะเห็นเส้นใยเชื้อราสีขาวหรือเทาที่ใต้ใบ ขอบใบจะม้วนและร่วง ปื้นสีเหลืองนั้นต่อไปจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
*ในเมล่อน แคนตาลูปและแตงโม จะทำให้ความหวานลดลง
วิธีการดูแลรักษา
- ก่อนปลูกควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น 50 องศาเซลเซียล นาน 20-30 นาที หรือคลุกเมล็ดด้วยสารเมทาแลกซิล 35% DS อัตรา 7 กรัม ต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม
- ไม่ปลูกพืชแน่นเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื่นสูง และหมั่นกำจัดวัชพืช เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศในแปลงได้ดี และทำลายแหล่งอาศัยของด้วงเต่าแดง
- กำจัดด้วงเต่าแดง ซึ่งอาจเป็นแมลงพาหนะโรค โดยการจับทำลาย หรือพ่นด้วยสารกำจัดแมลงที่มีประสิทธิภาพป้องกันกำจัด เช่น ไดโนทีฟูแรน 10% SL 20 มิลลิลิตร, ฟิโพรนิล 5% SC 20 มิลลิลิตร, คาร์บาริล 85% WP 30 กรัม *อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร
- หมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคเริ่มระบาดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น แมนโคเซบ+เมทาแลกซิล-เอ็ม 64%+4% WG 50 กรัม, ไซมอกซานิล+ฟามอกซาโดน 30%+22.5% WG 10-15 กรัม, แมนโคเซบ+วาลิฟีนาเลท 60% WG 50 กรัม, ไดเมโทมอร์ฟ 50% WP 30 กรัม *อัตราต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วทั้งบนและใต้ใบ ทุก 5-7 วัน
- แปลงที่เป็นโรค ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำในตอนเย็น เพื่อลดความชื้นในแปลงและหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ให้เก็บซากพืชไปทำลายนอกแปลงปลูก ไม่ปลูกพืชตระกูลแตงซ้ำและควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน
ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร