“การทำถ่านผลไม้”
สถาพร ตะวันขึ้น (พี่หมึก) ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้สร้างงานเผาถ่านเป็นอาชีพ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้สร้างงานเผาถ่านเป็นอาชีพ 21 หมู่ที่ 4 ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
จุดเริ่มต้นของการเผาถ่านผลไม้
ภายในชุมชน มีการตัดแต่งกิ่ง ส้มโอ ลิ้นจี่ และผลไม้ตามฤดูกาลที่เหลือทิ้ง “พี่หมึก” ได้มีแนวคิดว่ากิ่งไม้และผลไม้เหล่านี้มาเผาให้เป็นถ่าน เพื่อจําหน่ายแก่ชาวบ้านในชุมชน พร้อมทั้งสกัดเป็นน้ําส้มควันไม้ เพื่อให้แก่เกษตรกรในชุมชน นําไปฉีดพ่นไล่แมลง ลดต้นทุน การผลิต ภายหลังได้เล็งเห็นว่าในชุมชนนั้น มีผลไม้ที่ได้ตัดแต่งกิ่ง หรือปล่อยทิ้งไว้ จึงมี แนวคิดนํามาเผาให้เป็นถ่าน เพื่อนํามาใช้ ดูดกลิ่น ในตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า รถยนต์ เพื่อเพิ่มมูลค่า จากสิ่งที่เหลือใช้ และยังถ่ายทอดให้คนในชุมชน ประชาชนทั่วไป นําไปประกอบอาชีพ ในพื้นที่ของตนเองได้อีกด้วย
ขั้นตอนการทําถ่านผลไม้
การเตรียมวัสดุอุปกรณ์
- เตาเผาถ่าน (ถังน้ํามัน 200 ลิตร)
- ไม้ฟืน
- ไม้เผาถ่าน
- ปี๊บ
- ผลไม้ต่าง ๆ เช่น สับปะรด, ขนุน, ส้มโอ, ทุเรียน, มังคุด, มะพร้าว
ขั้นตอนการทําถ่านผลไม้
- คัดเลือกผลไม้ที่ไม่สุกแก่จอม หรือเน่าเสีย
- นําผลไม้ที่จะนํามาทําการเผาเป็นถ่านมาใส่ในปี๊บ โดยเรียงจากผลไม้ไซส์ใหญ่ สุดใส่ด้านล่างปี๊บ ทําการไล่ระดับขนาดไซส์ ขนาดผลเล็กสุดไว้ด้านบนจากนั่น นําใบตองสดมาปิด เพื่อป้องกันเขม่าควันไฟไม่ให้มาจับที่ผลไม้ ปิดฝาให้ดี
- นําปี๊บเข้าไปตั้งในเตาเผา จัดเรียงไม้ฟืนให้มีช่องว่างน้อยที่สุดเรียงไม้ฟืนจน เต็มเตา
- นําเชื้อเพลิงมาจุดไฟ ให้ความร้อนกระจายเข้าไปในเตา กระบวนการเผาไหม้ จะต้องควบคุมให้ดีด้วยการเลื่อนเดช่องอากาศหรือลิ่นเปิดปิด ในช่วง 1 – 2 ชั่วโมงแรกจะมีควันสีขาวลอยออกจากปล่องควันเต็มไปหมด รอจนกว่า ควันสีขาวหายไปจึงทําการเก็บน้ําส้มควันไม้ด้วยการทําให้เกิดการควบแน่น โดยใช้ผ้าชุบนํ้าหุ้มปล่องควันน้ําส้มควันไม้จะหยดลงกระป๋อง
- คอยควบคุมอุณภูมิของเตา
- นําผลไม้ที่เผาแล้วมาวางทิ้งไว้ให้เย็น
ผลผลิตที่ได้จาการเผาถ่าน
- ถ่านเชื้อเพลิง ที่ใช้ในการหุงต้ม
- ถ่านผลไม้นํามาดูดกลิ่นในตู้เย็นและมีความสวยงาม
- นํ้าส้มควันไม้ สําหรับใช้ไล่แมลง
- ขี้เถ้า นํามาพอกทําไข่เค็ม
องค์ความรู้และทักษะที่เชี่ยวชาญ
พืนที่ใช้กับถ่านผลไม้ต้องสัมพันธ์กัน ถ้าฟีนน้อยถ่านผลไม้ไม่เกิด อากาศต้องควบคุมการเป็นถ่านต้องให้ฟืนค่อย ๆ ถูกเผาไหม้อย่างช้า ๆ ถ้าเปิดลิ้นอากาศมาก การเผาไหมจะ – รุนแรงฟืนกลายเป็นเถ้าต้องค่อย ๆ หรี่ช่องอากาศ ให้ค่อย ๆ เผาไหม้ทิ้งเอาไว้ราว 8 ชั่วโมงจนฟืนดับเอง
จัดทำโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอบางคนที