การผลิตหน่อไม้ฝรั่งพันธุ์ดี
สอบถามข้อมูลเพิ่ม : ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4437 9617
หรือ ดาวน์โหลดแผ่นพับความรู้ทางการเกษตร เรื่อง การผลิตหน่อไม้ฝรั่งพันธุ์ดี ได้ที่ https://bit.ly/3KJPOcd
การผลิตหน่อไม้ฝรั่ง ด้วยการใช้พืชพันธุ์ดีมีข้อดีหลายประการ ได้แก่ ได้ผลผลิตคุณภาพดีเกรด A ผลผลิตมีความสม่ำเสมอและมาตรฐานใกล้เคียงกัน จะพบหน่อบานน้อย และไม่จำเป็นต้องสวมหมวกให้หน่อไม้ฝรั่ง การติดของหน่อไม้ฝรั่งมีความสม่ำเสมอ และใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำ
การปลูก
1. การเพาะเมล็ด (1 ไร่ จะใช้เมล็ดประมาณ 150 กรัม)
เพาะกล้าในแปลงเพาะ โดยแช่เมล็ดในน้ำ 1 วัน แล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง พรมน้ำให้ชื้นจนกว่าเมล็ดจะปริ นำไปหยอดลงแปลง โดยทำร่องลึก
1 – 2 เซนติเมตร ห่างกัน 20 เซนติเมตร หยอดเมล็ดในร่องห่างกัน 10 เซนติเมตร หลุมละ 1 – 2 เมล็ด ต้นกล้าอายุประมาณ 4 เดือน จึงย้ายปลูก
เพาะกล้าในถุงพลาสติก ขนาด 4 นิ้ว โดยเตรียมวัสดุปลูกใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยอินทรีย์อัตรา
1 : 1 หยอดเมล็ดถุงละ 2 เมล็ด สามารถย้ายปลูกได้เมื่อกล้าอายุ 2 – 3 เดือน
2. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การปลูกหน่อไม้ฝรั่งจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ระยะที่ปลูกเหมาะสม คือ 80 – 150 เซนติเมตร เนื่องจากต้นกล้าจะเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตที่มีมาตรฐานสูงกว่าต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด
การเตรียมแปลง
- เลือกพื้นที่ปลูกที่เป็นดินร่วนทรายหรือดินร่วน มีอินทรียวัตถุมาก ความเป็นกรด – ด่างของดิน 6 – 7 สามารถระบายน้ำออกจากแปลงปลูกได้รวดเร็ว พรวนย่อยดิน พร้อมทั้งคลุกเคล้าดินกับปุ๋ยหมักและปรับระดับดินให้สม่ำเสมอ มีความลาดเอียงไปทางใดทางหนึ่งเพื่อสะดวกในการระบายน้ำ ระยะปลูก 150 x 40 เซนติเมตร ขุดหลุมลึก 10 – 20 เซนติเมตร ทั้งนี้ความลึกในการปลูกขึ้นกับสภาพดิน ถ้าเป็นดินเหนียวมักปลูกตื้น ส่วนดินทรายมักจะปลูกลึกกว่า
- คัดเลือกต้นกล้าที่มีเหง้าใหญ่เป็นต้นแม่ที่แข็งแรง ตัดยอดออกให้เหลือลำต้นเหนือดินประมาณ 15 เซนติเมตร แช่เหง้าด้วยยากันราแมนโคเซป 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 5 นาที ก่อนนำไปย้ายปลูก ก่อนปลูกควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อหลุม หรืออัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ กลบปุ๋ยด้วยดินบาง ๆ หรือ คลุกเคล้าปุ๋ยกับดินก่อนวางเหง้าที่ก้นหลุม จัดเหง้าให้ตาอยู่ด้านบนและรากแผ่ออกด้านข้าง หรือใช้ต้นกล้าวางที่ก้นหลุม
การปักค้าง
ใช้ไม้ไผ่ขนาดใหญ่หรือท่อพีวีซี ขนาด 1 นิ้ว ปักหัวกับท้ายแปลงและใช้ไม้ไผ่ขนาดเล็กพยุงเชือกเป็นระยะ โดยขึงเชือกที่ระดับ 75 และ 150 ซม. เพื่อช่วยค้ำจุนต้นหน่อไม้ฝรั่งไม่ให้ล้มเสียหาย
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ การให้น้ำต้นกล้าที่ย้ายปลูกใหม่ควรให้น้ำวันเว้นวัน หลังจากต้นกล้าตั้งตัวได้แล้วเปลี่ยนเป็นให้น้ำ 3 – 5 วันต่อครั้ง ซึ่งการให้น้ำสามารถทำได้ทั้งแบบปล่อยตามร่องหรือแบบพ่นฝอย
การใส่ปุ๋ย
- ปุ๋ยเคมี ใช้สูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 รองก้นหลุมก่อนย้ายปลูก และให้ต่อไปเดือนละครั้ง อัตราครั้งละ 20 – 30 กิโลกรัมต่อไร่
- ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่เฉพาะในช่วงพักต้นครั้งละ 1 – 2 ตันต่อไร่
- การพรวนดิน ให้ทำการพรวนดินหลังจากย้ายต้นกล้าปลูก กลบโคนต้นหน่อไม้ฝรั่ง และควรพรวนดิน 3 – 4 เดือนต่อครั้งพร้อมกับการเติมปุ๋ยอินทรีย์
การเก็บเกี่ยว
- การเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่ง สามารถเก็บเกี่ยวโดยใช้มือจับโคนหน่อที่โผล่พ้นดินสูงประมาณ 20 เซนติเมตร แล้วดึงขึ้นมาในแนวตรง ในช่วงเช้าเวลา 06.00 – 09.00 น.