โรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง
โรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง สาเหตุเกิดจากเชื้อรา : Pseudoperonospora cubensis อาการเริ่มแรกพบจุดสีเหลืองหรือน้ำตาลขนาดเล็ก และขยายใหญ่ขึ้นเป็นปื้นสีเหลือง โดยจะพบที่ใบล่าง ใบแก่หรือโคนเถา ในเวลาเช้ามืดจะเห็นเส้นใยเชื้อราสีขาวหรือเทาที่ใต้ใบ ขอบใบจะม้วนและร่วง ปื้นสีเหลืองนั้นต่อไปจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล*ในเมล่อน แคนตาลูปและแตงโม จะทำให้ความหวานลดลง วิธีการดูแลรักษา ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร
แมลงสิง
แมลงสิง แมลงสิง เป็นมวนชนิดหนึ่ง ตัวเต็มวัยมีรูปร่างเพรียวยาว ขนาดประมาณ 1.5 ซม. หนวดยาวใกล้เคียงกับลำตัว ลำตัวด้านบนสีน้ำตาล ด้านล่างสีเขียว เมื่อถูกรบกวนจะบินหนี ปล่อยกลิ่นเหม็นจากต่อมที่ส่วนท้อง ตัวเต็มวัยออกหากินช่วงเช้ามืดและบ่าย เพศเมียวางไข่ได้หลายร้อยฟองในช่วงชีวิต 2-3 เดือน วางไข่เป็นกลุ่ม 10-12 ฟอง เรียงเป็นแถวตรงบนใบข้าวขนานกับเส้นกลางใบ ไข่มีสีน้ำตาลแดงเข้ม รูปร่างคล้ายจาน ระยะไข่นาน 7 วัน ตัวอ่อนมี 5 ระยะ มีสีเขียวแกมน้ำตาลอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบข้าว ส่วนตัวเต็มวัยจะเข้าทำลายเมล็ดข้าวในระยะน้ำนมจนถึงออกรวง การเข้าทำลายแมลงสิงทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะใช้ปากแทงดูดกินน้ำเลี้ยงจากเมล็ดข้าว ทั้งในระยะข้าวเมล็ดอ่อนจนถึงเมล็ดแข็ง โดยเฉพาะข้าวระยะน้ำนม ทำให้เมล็ดข้าวลีบไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลง เมื่อนำไปสีเป็นข้าวสาร เมล็ดจะแตกหัก ไม่ได้คุณภาพ การป้องกันกำจัด *อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบแมลงสิงมากกว่า 4 ตัว ต่อตร.ม. ในระยะน้ำนม ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร
โรคดอกกระถินในข้าว
โรคดอกกระถินในข้าว สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Ustilaginoidea virens (Cke.) การเข้าทำลายในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง เชื้อราเข้าทำลายรวงข้าวในระยะเริ่มออกดอก เชื้อราสาเหตุโรค มีลักษณะเป็นผงหรือกลุ่มก้อนขนาดเล็กสีเหลือง พบอยู่ระหว่างเปลือกเมล็ดข้าว ต่อมาเชื้อราจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเจริญเติบโตคลุมเมล็ดข้าวทั้งเมล็ด เมื่อเชื้อราเจริญต่อไป เยื่อหุ้มจะแตกออก เชื้อราจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ถ้าเชื้อราแก่จัด อาจพบเป็นสีดำ สุดท้ายก้อนเชื้อราดอกกระถินจะมีรอยแยกและมีสีเขียวเข้มปนเหลือง ระยะนี้เชื้อราจะปลิวไปกับลม เข้าทำลายเมล็ดข้าว ต้นอื่น ๆ ต่อไปได้ แนวทางการป้องกันกำจัด กรณีจำเป็นต้องใช้สารเคมี หรือหากจะพ่นสารป้องกันเชื้อราในข้าวระยะตั้งท้องหรือก่อนข้าวออกรวงอย่างน้อย 3-4 วัน แนะนำให้ใช้ อัตรา 15 มล. *อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร**ควรสลับกลุ่มสารทุกการพ่น 2-3 ครั้ง ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกำแพงเพชร
หนอนหัวดำในมะพร้าวและพืชตระกูลปาล์ม
เตือนเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เฝ้าระวังการระบาดของหนอนหัวดำในมะพร้าวและพืชตระกูลปาล์ม เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังการเข้าทำลายของหนอนหัวดำในมะพร้าว/ปาล์มน้ำมัน สามารถพบได้ทั้งในระยะที่ยังไม่ให้ผลผลิตและให้ผลผลิตแล้ว จะพบตัวหนอนเข้าทำลายแทะกินผิวใต้ทางใบ จากนั้นตัวหนอนจะถักใยโดบใช้มูลที่ถ่ายออกมาผสมเส้นใยที่สร้างขึ้นมาทำอุโมงค์คลุมลำตัวยาวตามใต้ทางใบ ตัวหนอนจะอาศัยอยู่ภายในอุโมงค์ที่สร้างขึ้นและแทะกินผิวใบแก่ การป้องกันกำจัด 1.ตัดใบที่มีหนอนหัวดำลงทำลาย นำลงมาเผาหรือฝังทำลาย 2.การพ่นด้วยชีวภัณฑ์ “บีที” ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ใช้ในการควบคุมหนอนผีเสื้อศัตรูพืช อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมด้วยสารจับใบ 5 มิลลิลิตร ฉีดพ่นต้นละ 3- 5 ลิตร ให้ทั่วทรงพุ่ม จำนวน 3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน (ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีแสงแดดจัด) 3.การใช้แตนเบียนควบคุมหนอนหัวดำ 4.การควบคุมด้วยสารเคมี โดยวิธีฉีดเข้าลำต้นมะพร้าวที่มีความสูงมากกว่า 12 เมตร ใช้สารอีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92% EC ฉีดเข้าลำต้น ในอัตรา 30 มิลลิลิตรต่อต้น (วิธีนี้ห้ามใช้กับมะพร้าวที่สูงน้อยกว่า 12 เมตร มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวกะทิ และมะพร้าวที่ทำน้ำตาล) มะพร้าวที่มีความสูงน้อยกว่า 12 เมตร ให้พ่นทางใบด้วยสารชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังนี้ ที่มา : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรี
ด้วงงวงมะพร้าว
ด้วงงวงมะพร้าว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhynchophorus ferrugineus การเข้าทำลายมักพบการเข้าทำลายตามรอยทำลายของด้วงแรดมะพร้าว โดยด้วงงวงมะพร้าว จะวางไข่บนแผลบริเวณลำต้น หรือบริเวณยอดต้นมะพร้าวที่ด้วงแรดเจาะทำลายไว้ หากถูกด้วงงวงมะพร้าวเข้าทำลายจำนวนมาก มะพร้าวจะมีอาการยอดอ่อนเหี่ยวแห้ง ใบเหลืองหักพับ บางครั้งพบการเข้าทำลายที่โคนลำต้น ทำให้ต้นตาย การป้องกันกำจัด วิธีเขตกรรมทำความสะอาดบริเวณสวนมะพร้าว เพื่อกำจัดแหล่งขยายพันธุ์ของด้วงแรด หากพบหนอนหรือดักแด้ด้วงงวงมะพร้าวให้จับมาทำลาย วีธีกลใช้เหล็กยาวปลายเป็นตะขอแทงเข้าไปในต้นเพื่อเกี่ยวตัวหนอนออกมาทำลาย และทาบริเวณรอยแผลด้วยสารทาร์ (เป็นส่วนผสมของน้ำมันเครื่อง 1 ลิตรผสมกับกำมะถันผง 100 กรัม คนให้เข้ากัน) เพื่อป้ิงกันไม่ให้ด้วงงวงมะพร้าวเข้าทำลายซ้ำรอยแผลที่เกิดจากการตัดทางใบ หรือรอยแตกที่โคนลำต้น ควรใช้สารทาร์ทาเพื่อป้องกันการวางไข่ ชีววิธีใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม ใส่ไว้บริเวณกองปุ๋ยคอก หรือท่อนมะพร้าวที่มีหนอนด้วงแรดมะพร้าวอาศัยอยู่ การใช้สารเคมีใช้สารไดอะซินอน 60% EC หรือสารฟิริมิฟอสเมทิล 50% EC อัตรา 80 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ราดบริเวณคอมะพร้าวตั้งแต่โคนยอดอ่อนลงมา โดยใช้ปริมาณ 1-1.5 ลิตรต่อต้น ในช่วงที่พบการระบาด ที่มา : กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย