ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

ศูนย์วิทยบริการ
10

เรื่องล่าสุด

เมื่อเกษตรกรทำการเพาะปลูก จำเป็นที่จะต้องเผชิญกับปัญหาศัตรูพืช ทั้งโรค และแมลง การใช้ชีวภัณฑ์ในการควบคุมศัตรูพืชจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกร มีผลผลิตที่มีคุณภาพ และช่วยลดการใช้สารเคมีในแปลงเกษตรได้อีกด้วย ชวนอ่านเรื่องราวจากทั้ง 4 เอกสารแนะนำ ดังนี้1. เชื้อราเมตาไรเซียม แอนนิโซพลิอีคลิกอ่าน : https://bit.ly/3RZOh5k 2. การใช้เชื้อจุลินทรีย์ (ชีวภัณฑ์) ในการควบคุมศัตรูพืชคลิกอ่าน : https://bit.ly/3kkeiKL 3. มาตรฐานชีวภัณฑ์ (ผลิตภัณฑ์ชีววิธี)

การควบคุมภายใน (Internal Control) เครื่องมือสำคัญในการกำกับดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความหมายของการควบคุมภายใน การควบคุมภายใน (Internal Control) หมายถึง กระบวนการปฏิบัติงานที่ผู้กำกับดูแล หัวหน้าหน่วยงาน ฝ่ายบริหารและบุคลากรของหน่วยงานจัดให้มีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลว่าการดำเนินงานของหน่วยงานจะบรรลุวัตถุประสงค์ ด้านการดำเนินงาน ด้านการรายงานและด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับ แนวคิดของการควบคุมภายใน ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. ที่มา : วารสารส่งเสริมการเกษตรปีที่

วารสารส่งเสริมการเกษตร ปีที่ 57 ฉบับที่ 316 (พฤษภาคม – มิถุนายน 2567) ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. สารบัญ/contents หน้า 2 Smart DOAEการควบคุมภายใน (Internal Control) เครื่องมือสำคัญในการกำกับดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ หน้า 4 เกษตรต่างแดนคงคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยเพิ่มศักยภาพสินค้าเกษตรไทยในตลาดส่งออกสาธารณรัฐประชาชนจีน

เพลี้ยจักจั่นฝอยทุเรียน (Durian leafhopper) วงจรชีวิต ลักษณะการทำลาย แนวทางการป้องกันกำจัด เขตกรรม วิธีกล ชีววิธี สารเคมี การใช้สารเคมี เช่น สารเคมีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดกลุ่มเพลี้ยจักจั่น ได้แก่ การใช้สารเคมีกำจัดแมลงเพื่อแก้ไขปัญหาการดื้อยาของเพลี้ยจักจั่น ควรพ่นสารเคมีที่มีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันสลับกันตามวงจรชีวิตของแมลง สำหรับเพลี้ยจักจั่นมีวงจรชีวิตประมาณ 1 เดือน ดังนั้น ควรใช้สารที่มีกลไกเดียวกันไม่เกิน 1

คำแนะนำการป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ เฝ้าระวังการระบาดของหนอนกระทู้ เนื่องจากช่วงนี้พบการระบาดของหนอนกระทู้หอม และหนอนกระทู้ผักเข้าทำลายมันสำปะหลังในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบหนอนกระทู้กล้าเข้าทำลายในข้าว และหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดเข้าทำลายข้าวโพด ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งเป็นเวลานาน และเริ่มมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้ดักแด้ที่พักตัวอยู่ในดินพัฒนาเป็นตัวเต็มวัย (ผีเสื้อกลางคืน) และวางไข่ สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้วงจรชีวิตหนอนสั้นลง ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและเข้าทำลายหลายชนิดพืช รูปร่างลักษณะ หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด : fall armyworm (Spodoptera frugiperda (J.E.

เปิดรับสมัคร อบรมการบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ ปี 67 (รุ่น 2) ขอเชิญชวนเกษตรกร ผู้นำเกษตรกร (อกม./YSF/SF) เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมฝึกอบรม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี

การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ในปัจจุบันการเพาะเห็ดฟางได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะได้ผลตอบแทนเร็ว เพียงระยะ 9-11 วัน ก็เริ่มเก็บผลผลิตได้ต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถเพาะได้ทุกพื้นที่รูปแบบมีหลายรูปแบบ วัสดุอุปกรณ์ ขั้นตอนการทำ เรียบเรียงโดย : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา

กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดรับสมัครเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเข้ารับการอบรม หลักสูตร “หมอพืชชุมชน” ตั้งแต่บัดนี้ – 19 กรกฎาคม 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน หมายเลขโทรศัพท์ : 053-611044

ใบบัวบก

ใบบัวบก บัวบกมีสารสำคัญกรดมาเดคาสสิก (Madecassic acid) กรดเอเชียติก (Asiatic acid) การปลูกปลูกได้ดีในดินเหนียวหรือดินเหนียวปนดินร่วน ใบบัวบกจะขยายพันธุ์โดยไหลและเมล็ด วิธีขยายจากไหลตัดไหลเป็นท่อน ๆ ไปเพาะในกระบะเพาะ 1-2 สัปดาห์ การดูแลรักษาบัวบกต้องการความชื้น แต่ไม่แฉะควรให้น้ำสม่ำเสมอ ควรระวังอย่าให้น้ำขัง จะเกิดโรคโคนเน่า การเก็บเกี่ยวเริ่มเก็บเกี่ยวหลังจากปลูกได้ประมาณ 60-90 วัน ใช้มีดตัดเหนือจากพื้นดินประมาณ

การทาบกิ่ง

การทาบกิ่ง เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชวิธีหนึ่งที่ทำให้ได้ต้นพันธุ์ ซึ่งมีลักษณะทางสายพันธุ์เหมือนต้นแม่ทุกประการ โดยกิ่งพันธุ์ดีจะให้ผลผลิตที่ตรงตามพันธุ์ อุปกรณ์ ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. จัดทำโดย : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา


ยาร้อน ยาเย็น ดูไม่เป็น..ทำไงดี..?

เกษตรกรต้องรู้ >>> ฉีดผิด ดอกร่วง ผลร่วง ยอดหงิก ใบไหม้ หายนะมาเยือน เคยได้ยินกันไหมครับว่ายาเคมีฉีดแมลง ฉีดโรคพืช หรือสารเคมีทางการเกษตรนั้น มีทั้งยาร้อนและยาเย็น

เกษตรกรอย่างเรา เลยเริ่มสงสัย ???
ตกลง #ยาร้อนยาเย็นมันเป็นอย่างไร? #แตกต่างกันตรงไหน? และที่สำคัญ #เลือกใช้อย่างไรดี ?
มาทำความเข้าใจกันง่ายๆ แบบชาวบ้านๆ…นะครับ

>>>[ #ยาร้อน ] ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่ามันร้อน นั่นแสดงว่าเมื่อฉีดพ่นไปแล้ว…จะมีอัตราความเป็นพิษต่อพืชค่อนข้างสูง….โดยเฉพาะส่วนที่เปราะบาง เช่น ดอก และใบอ่อน จะทำให้ดอกหลุดร่วง ยอดจะเหี่ยวเฉา หงิกงอ ใบไหม้แล้วก็หลุดร่วง หรือในช่วงระยะวิกฤติของพืช เช่นอยู่ในระยะตั้งท้อง ออกดอก ติดผลอ่อน หรือช่วงแล้งพืชขาดน้ำ ก็จะเป็นพิษต่อพืชเช่นกัน โดย “ยาร้อน” จะเติมสารอิมัลซิไฟเออร์ที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายน้ำมันเบนซีนเข้าไป (ทำหน้าที่ให้น้ำกับน้ำมันผสมเข้ากันได้โดยไม่แยกชั้น) เพื่อให้สารเคมีที่ไม่ละลายน้ำสามารถละลายเข้ากันกับน้ำได้ ดังนั้นเวลาเราผสมสารเคมีสูตรนี้จะเห็นน้ำเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ซึ่งสารเคมีกลุ่มนี้สามารถสังเกตในตัวย่อของสูตรจะมีตัว E หรือ O เช่น EC , EW , ME , OD แต่สารสูตรนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นยาร้อนเสมอไป บางบริษัทก็ใช้ตัวทำลายที่ได้มาจากการสกัดน้ำมันจากพืช ทำให้ปลอดภัยต่อพืชสูง แต่ก็ส่งผลให้ราคาสูตรนี้สูงขึ้นตามไปด้วย(ที่หลายท่านสงสัยว่ายาตัวเดียวกัน สูตรเหมือนกัน แต่ทำไมราคาถึงต่างกันนั่นเอง)


>>>ส่วน [#ยาเย็น ] ชื่อก็บอกชัดเจนมันต้อง “เย็น”…คุณสมบัติตรงกันข้ามกับยาร้อน…ดังนั้นเมื่อฉีดพ่นเข้าไปแล้วอัตราความเป็นพิษต่อพืชต่ำ จะไม่ส่งผลกระทบในทางลบกับดอก ผล และใบอ่อนของพืช…ตัวย่อของสูตรนี้ เช่น SC , SL , SG , SP , WP , WG แต่ “ยาเย็น” ไม่ได้หมายความว่าไม่เกิดความเป็นพิษต่อพืช แต่เป็นพิษค่อนข้างต่ำ และอาจเกิดได้ถ้าใช้ในอัตราสูงกว่าคำแนะนำครับ และต้องระวังให้ดี…สำหรับเกษตรกรที่ใช้วิธีการจำชื่อยาแล้วไปซื้อ….อย่าลืมว่า…ยาตัวเดียวกันจะมีทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็น…ดังนั้นควรศึกษาหรืออ่านฉลากก่อนใช้ให้เข้าใจและถ้ายังสงสัยก็สอบถามเจ้าของร้านหรือผู้รู้ก่อนนะครับ

ยาร้อนยาเย็น