ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

เพลี้ยไฟในมะม่วง (Chilli thrips) ลักษณะการทำลาย การป้องกันกำจัด *ในขณะที่ดอกบานควรหลีกเลี่ยงการใช้สารดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อแมลงผสมเกสรได้ จัดทำโดย : สำนักงานเกษตรอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม (Metarhizium anisopliae) เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม (Metarhizium anisopliae) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกับแมลง พบในดินลักษณะโดยทั่วไปของเชื้อราเมตาไรเซียม คือเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีเขียวหม่น สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน เป็นเชื้อราที่ไม่ทำอันตรายต่อไส้เดือนฝอย สัตว์ต่าง ๆ และมนุษย์ สามารถทำให้เกิดโรคในแมลงได้หลายชนิด การเข้าทำลายแมลงของเชื้อราเมตาไรเซียมเมื่อสปอร์ของเชื้อราเมตาไรเซียมสัมผัสหรือติดไปกับตัว ในสภาพความชื้นสูง เชื้อราจะงอกเป็นเส้นใยและแทงทะลุผ่านผนังลำตัวแมลงและเจริญเพิ่มปริมาณภายในลำตัวแมลง ทำให้แมลงเคลื่อนไหวช้าลง ไม่กินอาหาร และตายภายใน 7-9

ปุ๋ยแคลเซียมในพืช (Calcium) แคลเซียมไอออน  (Ca2+) บทบาทของแคลเซียมในพืช อาการเมื่อพืชขาดแคลเซียม แหล่งของแคลเซียมที่ใช้ในการเกษตร 1.แคลเซียมไนเตรท (Ca(NO3)2) 2.แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) **เคล็ดลับ : ควรตรวจวิเคราะห์ดินก่อนการใช้แคลเซียม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการบำรุงพืช เรียบเรียงโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว มีนาคม ; 2568

เรื่องเล่าเช้าวันจันทร์ “การดูแลไม้ผลและไม้ยืนต้นช่วงหน้าแล้ง” เคล็ดไม่ลับ!! การดูแลไม้ผลและไม้ยืนต้นให้ผ่านช่วงหน้าแล้ง ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำ การตัดแต่งกิ่ง การกำจัดวัชพืช รวมถึงการใส่ปุ๋ย ต้องจัดการอย่างไร วันนี้กรมส่งเสริมการเกษตร หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ การดูแลไม้ผลและไม้ยืนต้นช่วงหน้าแล้งคลิกอ่าน : https://bit.ly/4kM15ct 10 พืชใช้น้ำน้อยปลูกได้ในฤดูแล้งคลิกอ่าน : https://bit.ly/4kM1fR7 เข้าดูเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> https://bit.ly/3Vc44if

เตรียมความพร้อมก่อนปลูกไม้ผล 1.เลือกชนิดไม้ผลที่จะปลูก 2.เลือกพันธุ์ที่ได้เปรียบทางการตลาดเก็บเกี่ยวก่อนหรือหลังพันธุ์อื่น ๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศ 3.เลือกกิ่งพันธุ์เลือกกิ่งพันธุ์ที่ปราศจากโรคและแมลงจากแหล่งที่เชื่อถือได้, อายุไม่เกิน 1 ปี กรณีเป็นกิ่งเสียบหรือกิ่งทาบ รอยประสานของแผลต้องเชื่อมสนิทกันดี, กรณีใช้เป็นต้นตอควรเป็นต้นตอที่สามารถปรับตัวได้กว้างและทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี 4.ออกแบบผังการปลูกไม้ผล 5.การปลูกและดูแลรักษา เรียบเรียงโดย : กลุ่มส่งเสริมการควบคุมศัตรูพืชโดยเทคโนโลยีรังสี กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย

โรคใบไหม้ (sunburn)

โรคใบไหม้ (sunburn) การทำลายใบทุเรียนเป็น ซันเบิร์น (sunburn) เกิดแผลอาการใบไหม้แห้ง เหมือนถูกแดดเผา ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรง ต้องการสังเคราะห์แสงและปรุงอาหารของต้นทุเรียน ทำให้การเจริญเติบโตชะงัก หากเป็นในช่วงติดดอกติดผลจะส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตทุเรียน สาเหตุหลักของอาการใบไหม้ Sunburn แนวทางป้องกัน/แก้ไข เรียบเรียงโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตราด

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี ขอเชิญเข้าร่วมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ระดับเขต ประจำปี พ.ศ. 2568 วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 ณ เครือข่าย ศพก. เอแอนด์เจ ผลไม้ไทย ตำบลศรีสุราษฎร์ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี

ปลูกข้าวนาปรัง…ระวังหนาว หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวในเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน หรือจัดช่วงเวลาปลูกไม่ให้กระทบอากาศหนาวเย็นในช่วงตั้งท้อง-ออกรวง ระยะตั้งท้อง-ออกรวงต้นข้าวซีดเหลือง ใบมีสีเหลืองหรือส้มใบแห้งตายจากขอบใบ มักพบโรคใบจุดสีน้ำตาลและโรคเมล็ดด่าง พันธุ์ข้าวที่คอรวงสั้น รวงข้าวส่วนนึงจะโผล่ไม่พ้นกาบใบธง ทำให้ไม่มีการผสมเกสรเกิดเมล็ดลีบ ออกรวงช้า รวงไม่สม่ำเสมอก้านช่อดอกหดสั้น เกสรตัวผู้เป็นหมัน ทำให้เมล็ดไม่เต็ม ปลายรวงลีบฝ่อ ระยะกล้า-แตกกอเมล็ดข้าวงอกช้า การเจริญเติบโตช้า ต้นเตี้ย ไม่แตกกอ ซีดเหลือง ใบมีสีเหลือง

เรียนฟรี ผู้สนใจ “ต่อยอดรายได้เกษตรกรด้วยคาร์บอนเครดิต” สมัครเรียนได้ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร เปิดรับสมัครโรงเรียนเกษตรทางไกล หลักสูตร “ต่อยอดรายได้เกษตรกรด้วยคาร์บอนเครดิต” รอบใหม่ ประจำปี 2568 ให้กับเกษตรกรและประชาชนที่สนใจสมัครเรียน โดยเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่อง คาร์บอนเครดิต ที่ถูกต้อง


เป็นโรคพืชที่พบการระบาดมากในช่วงอากาศเย็น ความชื้นสูง และฝนตกชุก เนื่องจากเชื้อราสาเหตุโรคสามารถแพร่ระบาดได้ดีโดย ลม น้ำฝน เครื่องมือทางการเกษตร การเคลื่อนย้ายพืชปลูก และจะเจริญได้ดีในสภาพอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ ความชื้นในแปลงสูง หากเข้าทำลายพืชปลูกจะสร้างความเสียหายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต จะทำให้ผลผลิตพืชลดลง รวมถึงขนาดและคุณภาพลดลง หากอาการรุนแรงจะทำให้ใบเหลืองและแห้งตายทั้งต้น นอกจากนี้โรคราน้ำค้างยังสามารถเข้าทำลายพืชได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด เป็นต้น ส่วนข้อสังเกตของโรคราน้ำค้าง พบว่าในช่วงเช้าที่มีอากาศค่อนข้างเย็นและมีความชื้นสูง เมื่อพลิกดูใต้ใบพืชมักจะพบส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อรา เป็นเส้นใยสีขาวหรือเทาคล้ายปุยฝ้าย และลักษณะอาการโรคของพืชบางชนิด จะถูกจํากัดด้วยเส้นใบ จึงเห็นเป็นจุดแผลรูปสี่เหลี่ยม

สำหรับโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง เช่น แตงกวา แตงร้าน แตงโม แตงไทย เมล่อน แคนตาลูป ซูกินี ฟักทอง ฟักเขียว ฟักแม้ว มะระจีน และบวบ เกิดจากเชื้อรา Pseudoperonospora cubensis มักพบอาการของโรคบนใบที่อยู่บริเวณด้านล่างของต้นก่อน แล้วขยายลุกลามไปยังใบที่อยู่ด้านบน อาการเริ่มแรกบนใบปรากฏแผลฉ่ำน้ำ แผลจะขยายตามกรอบของเส้นใบย่อย ทำให้เห็นเป็นรูปเหลี่ยมเล็ก ๆ ต่อมาแผลเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ในตอนเช้าที่สภาพอากาศมีความชื้นสูงจะพบเส้นใยของเชื้อรา ลักษณะเป็นขุยสีขาวถึงเทาที่แผลบริเวณด้านใต้ใบ แผลจะขยายติดต่อกันเป็นแผลขนาดใหญ่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือเทาดำ หากอาการรุนแรงจะทำให้ใบเหลืองและแห้งตายทั้งต้น พืชที่เป็นโรคจะติดผลน้อย ผลมีขนาดเล็ก คุณภาพของผลจะลดลง หากเป็นโรคในระยะมีผลอ่อน จะทำให้ผลลีบเล็ก และบิดเบี้ยว โรคราน้ำค้างในพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว กะหล่ำดอก และบรอกโคลี เกิดจากเชื้อรา Peronospora parasitica มักพบอาการของโรคบนใบที่อยู่บริเวณด้านล่างของต้นก่อน แล้วขยายลุกลามไปยังใบที่อยู่ด้านบน อาการเริ่มแรกจะเห็นบริเวณด้านบนใบมีลักษณะเป็นจุดหรือปื้นแผลสีเหลือง ในตอนเช้าที่สภาพอากาศมีความชื้นสูงจะพบเส้นใยของเชื้อราลักษณะเป็นขุยสีขาวถึงเทาตรงแผลบริเวณด้านใต้ใบ ถ้าโรคระบาดรุนแรงแผลจะลามขยายใหญ่ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ต่อมาใบจะเหลืองและแห้ง หากเป็นโรคในระยะกล้า จะทำให้ต้นกล้าแคระแกร็น หรือตาย โดยในกะหล่ำดอกและบรอกโคลี หากโรครุนแรงก้านดอกจะยืดและดอกอาจจะบิดเบี้ยวเสียรูปทรง และโรคราน้ำค้างในข้าวโพด เกิดจาเชื้อรา Peronosclerospora sorghi ซึ่งโรคสามารถเกิดได้ตั้งแต่ข้าวโพดเริ่มงอก โดยพบจุดเล็ก ๆ สีเขียวฉ่ำน้ำบนใบอ่อน ต่อมาใบข้าวโพดมีสีเหลืองซีดโดยเฉพาะบริเวณยอด หรือใบลายเป็นทางสีเขียวอ่อนสลับเขียวแก่ ในเวลาเช้าที่มีอากาศค่อนข้างเย็นและความชื้นสูง มักพบส่วนของเชื้อรา ลักษณะเป็นผงสีขาวจำนวนมากด้านใต้ใบ บางครั้งพบยอดข้าวโพดแตกเป็นพุ่ม ต้นแคระแกร็น ข้อถี่ ไม่มีฝัก หรือมีฝักขนาดเล็ก ก้านฝักมีความยาวมาก หรือมีจำนวนฝักมากกว่าปกติ แต่จะไม่สมบูรณ์ เช่น มีเมล็ดจำนวนน้อย หรือไม่มีเมล็ดเลย โดยข้าวโพดในระยะเริ่มปลูกถึงอายุประมาณ 30 วัน จะอ่อนแอต่อโรคราน้ำค้าง

ด้านแนวทางการป้องกันและกำจัด กรมส่งเสริมการเกษตรมีคำแนะนำเกษตรกร ดังนี้ 1) ใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดีและปราศจากโรค 2) ก่อนปลูกควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส นาน 20 – 30 นาที หรือคลุกเมล็ดด้วยสารเมทาแลกซิล 35% DS อัตรา 7 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม 3) ไม่ปลูกพืชระยะชิดกันเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสูง 4) กำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศในแปลงได้ดี 5) หมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการของโรครุนแรง พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น ไดเมโทมอร์ฟ 50% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ + เมทาแลกซิล-เอ็ม 64% + 4% WG อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นให้ทั่วทั้งด้านบนใบและใต้ใบ ทุก 5 – 7 วัน และ 6) แปลงที่มีการระบาดของโรค หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ให้เก็บซากพืชไปทำลายนอกแปลงปลูก และไม่ปลูกพืชซ้ำ ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียนทั้งนี้ หากเกษตรกรพบปัญหาเกี่ยวกับศัตรูพืชเข้าทำลาย สามารถขอคำแนะนำได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

ภาพจาก : https://doaenews.doae.go.th/archives/25680?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR1YnnDKa-vE49HMa8H8rl5I4Fi7NH4F5QaPk8YDtaYWd8-z1hv_Hig4ots_aem_BRabUWR_Srn7ovZ57o3XDg

โรคราน้ำค้างพืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/11/โรคราน้ำค้างแตงกวา1_สนง.กษอ.จะนะ-จ.สงขลา.jpg
โรคราน้ำค้างพืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/11/โรคราน้ำค้างแตงกวา2_สนง.กษอ.จะนะ-จ.สงขลา.jpg
โรคราน้ำค้างพืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด และข้าวโพด
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/11/ราน้ำค้างข้าวโพด-อ.เสาไห้-จ.สระบุรี.jpg