ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำหนังสือใหม่ เดือนมกราคม 2568 สามารถเข้ามารับบริการการอ่านได้ที่ ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร อาคารส่งเสริมการเกษตรเบญจสิริกิติ์ ชั้น 5 (ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : โทรศัพท์ 0-2579-2594 โทรสาร 0-2579-5517 สืบค้นข้อมูลเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ : http://library.doae.go.th

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งมอบกล่องยูเอสที ให้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในโครงการกล่องวิเศษ ทางพิเศษรักษ์โลก ปีงบประมาณ 2567

มาตรการการดำเนินงานภายใต้การรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 ของกรมส่งเสริมการเกษตร 1.มาตรการสร้างความตระหนักรู้และป้องปราม 2.มาตรการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3.มาตรการปรับลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว 4.มาตรการไม่เผาเรารับซื้อ 5.มาตรการไฟจำเป็น 6.การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้

วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน โปรดทราบ กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ต่อทะเบียนได้ตั้งแต่ วันที่ 1 – 30 มกราคมของทุกปี โดยยื่นแบบคำขอดำเนินกิจการต่อของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (สวช.03) ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่จดทะเบียน หรือผ่าผ่านเว็บไซต์ ระบบสารสนเทศวิสาหกิจชุมชน https://smce.doae.go.th เอกสารประกอบการยื่น ดังนี้1. หนังสือสําคัญแสดงการจดทะเบียน (ท.ว.ช.2)2. เอกสารสําคัญแสดงการดําเนินกิจการ (ท.ว.ช.3)3.

กรมส่งเสริมการเกษตร เชิญเที่ยวงาน “Beyond & Journey of Siam Orchids” กิจกรรมส่งเสริมการผลิตและการตลาดกลุ่มสินค้ากล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ กิจกรรมภายในงาน พบกับ

โรคราสนิมในถั่ว สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Uromyces spp. ลักษณะอาการเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดอีกโรคหนึ่งของถั่ว โดยอาจเกิดกับถั่วเกือบทุกชนิด เป็นโรคที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ ในสภาวะหรือในขณะที่สิ่งแวดล้อมเหมาะสมต่อโรค จะเกิดขึ้นได้บนทุกส่วนของต้นถั่วที่อยู่เหนือดิน แต่จะพบมากที่สุดบนใบ โดยอาการจะเริ่มจากจุดสีเขียวซีดหรือเหลืองที่มีลักษณะกลม ๆ เล็ก ๆ ขึ้นก่อน ต่อมาตอนกลางจุดจะยกนูนสูงขึ้น แล้วแตกออกพร้อมกับจะมีผงหรือกลุ่มของสปอร์สีน้ำตาลแดงเกิดขึ้นเป็นจุด ๆ เห็นได้ชัดเจน ส่วนของเนื้อใบรอบจุดแผลก็จะมีลักษณะเป็นเซลล์ตายสีเหลือง

เตือนเฝ้าระวังศัตรูพืช ประจำเดือนมกราคม 2568 ภาคเหนือข้าว ระวัง เพลี้ยกระโดดหลังขาว หนอนกอข้าว แมลงบั่ว โรคไหม้ข้าวลำไย ระวัง มวนลำไย เพลี้ยแป้ง หนอนกินใบ โรคพุ่มไม้กวาดกาแฟ ระวัง มอดเจาะผลกาแฟ เพลี้ยหอยสีเขียว โรคใบจุดผัก ระวัง หนอนกระทู้ผัก โรคราน้ำค้าง โรคราแป้ง

กระท้อน คลองน้อย สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ลำดับที่ 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระท้อนพันธุ์อีล่าและพันธุ์ปุยฝ้าย จากแหล่งปลูกที่เป็นดินสองน้ำ (น้ำจืดผสมน้ำกร่อย) ทรงผลค่อนข้างกลม ผิวเปลือกสีเหลืองทอง เปลือกบาง เนื้อหนา ไม่ฝาด ปุยหรือเนื้อหุ้มเมล็ดฟู หนา แน่น สีขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ปลูกในพื้นที่ตำบลคลองน้อย บางไทร


โรคและแมลงศัตรูลำไยที่สำคัญ ที่มักพบเข้าทำลายลำไยในระยะติดผลและเจริญพัฒนาของผล มีดังนี้

  1. โรคราดำ (Sooty mold)
    ลักษณะอาการ : ลักษณะเป็นคราบสีดำเกาะอยู่ที่ผลและช่อผล ทำให้ผลผลิตไม่สามารถจำหน่ายได้ เนื่องจากสีผิวสกปรก เป็นที่ไม่พึงประสงค์ของผู้บริโภค
  1. โรคราน้ำฝน (Phytophthora fruit rot)
    ลักษณะอาการ : มักพบก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวผลลำไยประมาณ 1 เดือน ช่วงฝนตกชุกติดต่อกัน ผลลำไยที่เป็นโรคจะเน่า และพบเชื้อราสีขาวฟูบนผิวผล ทำให้ผลร่วง ส่วนผลลำไยที่ยังไม่แก่เต็มที่ เมื่อเป็นโรคจะมีอาการผลแตก ในสวนที่เป็นโรครุนแรง พบว่าผลเน่าทั้งสวน
  1. หนอนเจาะผล (Fruit borer)
    ลักษณะการทำลาย : ตัวหนอนจะเจาะเข้าทำลายผลอ่อนลำไยแล้วกัดกินเนื้อในผลรวมถึงเมล็ด เหลือแต่เปลือกแล้วเข้าดักแด้อยู่ภายใน ผลที่ถูกเจาะจะกลวงและแห้งติดอยู่กับช่อผล จะพบรูหนอนเจาะ โดยหนอนจะหลบและซ่อนตัวอยู่ในโพรงผลที่เจาะหันหัวเข้าด้านใน แล้วหันส่วนปลายก้นปิดรูเจาะเพื่อหลบแสง
  1. มวนลำไย (Longan stink bug)
    ลักษณะการทำลาย : พบทำลายลำไยทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย โดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากช่อผลอ่อนทำให้ผลมีรอยช้ำเป็นจุดสีดำ และร่วงหล่นในที่สุด
  1. เพลี้ยแป้ง (Mealy bugs)
    ลักษณะการทำลาย : เพลี้ยแป้งลำไยจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงที่ผลและก้านช่อผล แล้วถ่ายมูลน้ำหวานออกมา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของราดำ ทำให้เกิดโรคราดำ โดยมีมดเป็นพาหะช่วยเคลื่อนย้ายเพลี้ยแป้งและทำให้เกิดการระบาดรุนแรงมากขึ้น ผลผลิตที่พบเพลี้ยแป้งทำลายจะไม่ได้คุณภาพ ไม่สามารถจำหน่ายเป็นผลสด และอาจถูกระงับการส่งออกได้
  1. เพลี้ยหอยข้าวตอก (Wax scale)
    ลักษณะการทำลาย : เพลี้ยหอยข้าวตอกจะมีขนาดลำตัวประมาณ 5 มิลลิเมตร ผิวรอบนอกมีชั้นไขมันปกคลุม ทำให้ดูเหมือนเมล็ดข้าวตอก โดยตัวอ่อนดูดกินน้ำเลี้ยงบนช่อผลลำไยแล้วสร้างชั้นไขมันคลุมตัวเองไว้ และไม่เคลื่อนที่ที่ไปไหนอีก แล้วถ่ายมูลน้ำหวานออกมาซึ่งเป็นแหล่งอาหารของราดำ ทำให้เกิดโรคราดำ โดยมีมดเป็นพาหะช่วยเคลื่อนย้ายเพลี้ยหอยข้าวตอกและทำให้เกิดการระบาดรุนแรงมากขึ้น

ดาวน์โหลดไฟล์ PDF.

เรียบเรียงโดย : สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่

โรคและแมลงศัตรูลำไยที่สำคัญ
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/03/โรคและแมลงศัตรูลำไย.jpg