68. ยาร้อนยาเย็นดูไม่เป็น..ทำไงดี
ยาร้อน ยาเย็น ดูไม่เป็น..ทำไงดี..? เกษตรกรต้องรู้ >>> ฉีดผิด ดอกร่วง ผลร่วง ยอดหงิก ใบไหม้ หายนะมาเยือน เคยได้ยินกันไหมครับว่ายาเคมีฉีดแมลง ฉีดโรคพืช หรือสารเคมีทางการเกษตรนั้น มีทั้งยาร้อนและยาเย็น เกษตรกรอย่างเรา เลยเริ่มสงสัย ???ตกลง #ยาร้อนยาเย็นมันเป็นอย่างไร? #แตกต่างกันตรงไหน? และที่สำคัญ #เลือกใช้อย่างไรดี ?มาทำความเข้าใจกันง่ายๆ แบบชาวบ้านๆ…นะครับ >>>[ #ยาร้อน ] ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่ามันร้อน นั่นแสดงว่าเมื่อฉีดพ่นไปแล้ว…จะมีอัตราความเป็นพิษต่อพืชค่อนข้างสูง….โดยเฉพาะส่วนที่เปราะบาง เช่น ดอก และใบอ่อน จะทำให้ดอกหลุดร่วง ยอดจะเหี่ยวเฉา หงิกงอ ใบไหม้แล้วก็หลุดร่วง หรือในช่วงระยะวิกฤติของพืช เช่นอยู่ในระยะตั้งท้อง ออกดอก ติดผลอ่อน หรือช่วงแล้งพืชขาดน้ำ ก็จะเป็นพิษต่อพืชเช่นกัน โดย “ยาร้อน” จะเติมสารอิมัลซิไฟเออร์ที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายน้ำมันเบนซีนเข้าไป (ทำหน้าที่ให้น้ำกับน้ำมันผสมเข้ากันได้โดยไม่แยกชั้น) เพื่อให้สารเคมีที่ไม่ละลายน้ำสามารถละลายเข้ากันกับน้ำได้ ดังนั้นเวลาเราผสมสารเคมีสูตรนี้จะเห็นน้ำเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ซึ่งสารเคมีกลุ่มนี้สามารถสังเกตในตัวย่อของสูตรจะมีตัว E หรือ O เช่น EC , EW , ME , OD แต่สารสูตรนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นยาร้อนเสมอไป บางบริษัทก็ใช้ตัวทำลายที่ได้มาจากการสกัดน้ำมันจากพืช ทำให้ปลอดภัยต่อพืชสูง แต่ก็ส่งผลให้ราคาสูตรนี้สูงขึ้นตามไปด้วย(ที่หลายท่านสงสัยว่ายาตัวเดียวกัน สูตรเหมือนกัน แต่ทำไมราคาถึงต่างกันนั่นเอง) >>>ส่วน [#ยาเย็น ] ชื่อก็บอกชัดเจนมันต้อง “เย็น”…คุณสมบัติตรงกันข้ามกับยาร้อน…ดังนั้นเมื่อฉีดพ่นเข้าไปแล้วอัตราความเป็นพิษต่อพืชต่ำ จะไม่ส่งผลกระทบในทางลบกับดอก ผล และใบอ่อนของพืช…ตัวย่อของสูตรนี้ เช่น SC , SL , SG , SP , WP , WG แต่ “ยาเย็น” ไม่ได้หมายความว่าไม่เกิดความเป็นพิษต่อพืช แต่เป็นพิษค่อนข้างต่ำ และอาจเกิดได้ถ้าใช้ในอัตราสูงกว่าคำแนะนำครับ และต้องระวังให้ดี…สำหรับเกษตรกรที่ใช้วิธีการจำชื่อยาแล้วไปซื้อ….อย่าลืมว่า…ยาตัวเดียวกันจะมีทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็น…ดังนั้นควรศึกษาหรืออ่านฉลากก่อนใช้ให้เข้าใจและถ้ายังสงสัยก็สอบถามเจ้าของร้านหรือผู้รู้ก่อนนะครับ