ตั๊กแตนปาทังก้า

เตือนภัย…ตั๊กแตนปาทังก้า ตั๊กแตนปาทังก้าเป็นศัตรูพืชร้ายแรง จะกัดกินใบและต้นพืช ตั้งแต่เริ่มงอกจนออกดอกและติดผล หากถูกกัดกินจนได้รับความเสียหายจะมีผลกระทบต่อผลผลิต พืชอาหารมีประมาณ 34 ชนิด ได้แก่ข้าวโพด กล้วย ส้ม อ้อย ข้าวฟ่าง ใบมะพร้าว ปาล์มน้ํามัน ข้าว ถั่วเหลือง เป็นต้น ห้ามปล่อยตั๊กแตนคืนสู่ธรรมชาติ ปัจจุบันการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าเพื่อการค้ากําลังได้รับความนิยมอย่างมากในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีวิธีการเลี้ยงที่ไม่ยุ่งยาก ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงสั้น ต้นทุนต่ํา และได้รับผลตอบแทนสูง แต่ด้วยประเทศไทยเคยประสบปัญหาการระบาดของตั๊กแตนปาทังก้า ซึ่งสร้างความเสียหายกับพืชเศรษฐกิจสําคัญในหลายจังหวัด แม้ว่าปัจจุบันยังไม่พบการระบาดของตั๊กแตนปาทังก้า แต่หากไม่ควบคุมการเลี้ยงและให้คําแนะนําการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าที่ถูกต้องเหมาะสม อาจทําให้ตั๊กแตนปาทังก้าหลุดรอดออกมาแพร่ขยายพันธุ์ เกิดการระบาดทําลายพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ ดาวน์โหลดไฟล์ PDF จัดทำโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
แมลงศัตรูมะพร้าว

แมลงศัตรูมะพร้าว แมลงดําหนาม ไรสี่ขา ด้วงงวง ด้วงแรด หนอนหัวดํา ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. จัดทำโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท
ใบร่วงชนิดใหม่ยางพารา

เตือนเฝ้าระวัง…โรคใบร่วงชนิดใหม่ของยางพารา สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. หรือ Colletotrichum sp. ลักษณะอาการ : อาการเริ่มแรกเกิดจุดช้ำบริเวณใต้ใบและด้านบนของใบบริเวรเดียวกันจะเป็นสีเหลืองกลม ต่อมาขยายใหญ่ขึ้นเป็นสีคล้ำ ขอบแผลดำ และกลายเป็นเนื้อเยื่อแห้ง สีน้ำตาลจนถึงขาวซีด รูปร่างจุดแผลค่อนข้างกลม รอบแผลไม่มีสีเหลืองล้อมรอบ จำนวนมากกว่า 1 จุด อาจซ้อนกันเป็นแผลขนาดใหญ่ เมื่ออาการรุนแรงเกิดใบเหลืองและร่วง ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. จัดทำโดย : กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย
ขอบใบแห้งในนาข้าว

โรคขอบใบแห้งในนาข้าว สาเหตุ – เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas oryzae pv. oryzae (ex Ishiyama) Swings et al. การแพร่ระบาด – สามารถแพร่ไปกับน้ํา ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและมีลมพัดแรง จะช่วยให้โรคแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง อาการ – เป็นโรคได้ตั้งแต่ระยะกล้า แตกกอ จนถึง ออกรวง ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. จัดทำโดย : ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดชัยนาท
โรคใบติดหรือใบไหม้ทุเรียน

โรคใบติดหรือใบไหม้ทุเรียน เกิดจาก เชื้อรา Rhizoctonia solani อาการเริ่มแรกจะพบบนใบมีแผล คล้ายถูกนํ้าร้อนลวก ต่อมาแผลจะ ขยายตัวและเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาล มีขนาด และรูปร่างไม่แน่นอน เมื่อใบที่เป็นโรคร่วงหล่นบริเวณโคนต้นจะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อรา และกระจายแพร่เชื้อต่อไป มักระบาดในช่วงฤดูฝน ที่มีความชื้นสูง รวมถึงต้นทุเรียนที่มีทรงพุ่มหนา ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. จัดทำโดย : ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา https://www.facebook.com/profile.php?id=100068931140391