ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

หยุดเผาได้ 5 ดี ผลกระทบจากการเผา ด้านสุขภาพอนามัยการเผา ทำให้เกิดฝุ่น ควัน และก๊าซพิษเป็นอันตรายต่อชีวิต ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ด้านกฎหมาย จัดทำโดย : สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง

โรคต้นแตกยางไหลในเมล่อน สาเหตุจากเชื้อรา : Mycosphaerella citrulline และ Didymella sp. ช่วงการระบาด : ระบาดมากในช่วงฤดูฝน ข้อสังเกตลักษณะ/อาการที่อาจพบ : แผลจะฉ่ำน้ำ เป็นยางเหนียวสีน้ำตาลแดงที่บริเวณโคนต้น ลำต้น และก้านใบ เมื่อแผลแห้งจะเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วบริเวณแผล แนวทางป้องกัน/แก้ไข นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญ

การใช้ปุ๋ยในนาข้าวที่เหมาะสมตามระยะการเจริญเติบโตของข้าว ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. ระยะการเจริญเติบโตของข้าว มีความต้องการอาหารแตกต่างกัน ดังนี้ ระยะข้าวงอก (ระยะ 0-1)ถึงระยะกล้า ต้นข้าวจะใช้อาหารที่สะสมในเมล็ดตั้งแต่ข้าวเริ่มงอก จนถึงต้นกล้าอายุ 14-20 วัน ระยะข้าวกล้า (ระยะ 1-2)ต้นข้าวเริ่มดูดธาตุอาหารผ่านราก ต้องบำรุงด้วยปุ๋ยที่มีธาตุอาหารไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K)

วารสารส่งเสริมการเกษตร ปีที่ 57 ฉบับที่ 318 (กันยายน – ตุลาคม 2567) ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. สารบัญ/contents หน้า 2 Smart DOAEเทคนิค 3E’s เพื่อการตรวจสอบการดำเนินงาน (Performance Audit) หน้า 4

สารเคมีเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรนิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ดังนั้น เกษตรกรจะต้องคำนึงถึงการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยใช้สารเคมีตรงชนิดกับศัตรูพืช ใช้ถูกอัตรา ใช้ถูกระยะเวลา และใช้ให้ถูกวิธี เกษตรกร…ต้องรู้ กลไกการเข้าทำลายสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชคลิกอ่าน : https://bit.ly/474wn71 4 ขั้นตอน การผสมสารเคมี ป้องกันกำจัดศัตรูพืชให้ถูกวิธีคลิกอ่าน : https://bit.ly/3t1Wfl6 คู่มือการตรวจวิเคราะห์สารเคมีตกค้างในผลผลิตการเกษตรคลิกอ่าน : https://bit.ly/42rFVJE

การปรับตัวภาคการเกษตรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภาวะโลกร้อน (Global Warming) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาสำคัญและส่งผลกระทบไปทั่วโลก มีสาเหตุสำคัญมาจากภาวะโลกร้อน (Global Warming) ซึ่งเกิดจากก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas GHG) ในบรรยากาศที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะภาคการเกษตร

ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำหนังสือใหม่ เดือนมกราคม 2568 สามารถเข้ามารับบริการการอ่านได้ที่ ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร อาคารส่งเสริมการเกษตรเบญจสิริกิติ์ ชั้น 5 (ห้องสมุดกรมส่งเสริมการเกษตร) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : โทรศัพท์ 0-2579-2594 โทรสาร 0-2579-5517 สืบค้นข้อมูลเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ : http://library.doae.go.th

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งมอบกล่องยูเอสที ให้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในโครงการกล่องวิเศษ ทางพิเศษรักษ์โลก ปีงบประมาณ 2567

มาตรการการดำเนินงานภายใต้การรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 ของกรมส่งเสริมการเกษตร 1.มาตรการสร้างความตระหนักรู้และป้องปราม 2.มาตรการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3.มาตรการปรับลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว 4.มาตรการไม่เผาเรารับซื้อ 5.มาตรการไฟจำเป็น 6.การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้

วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน โปรดทราบ กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ต่อทะเบียนได้ตั้งแต่ วันที่ 1 – 30 มกราคมของทุกปี โดยยื่นแบบคำขอดำเนินกิจการต่อของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (สวช.03) ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่จดทะเบียน หรือผ่าผ่านเว็บไซต์ ระบบสารสนเทศวิสาหกิจชุมชน https://smce.doae.go.th เอกสารประกอบการยื่น ดังนี้1. หนังสือสําคัญแสดงการจดทะเบียน (ท.ว.ช.2)2. เอกสารสําคัญแสดงการดําเนินกิจการ (ท.ว.ช.3)3.

กระท้อน คลองน้อย

กระท้อน คลองน้อย

กระท้อน คลองน้อย สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ลำดับที่ 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระท้อนพันธุ์อีล่าและพันธุ์ปุยฝ้าย จากแหล่งปลูกที่เป็นดินสองน้ำ (น้ำจืดผสมน้ำกร่อย) ทรงผลค่อนข้างกลม ผิวเปลือกสีเหลืองทอง เปลือกบาง เนื้อหนา ไม่ฝาด ปุยหรือเนื้อหุ้มเมล็ดฟู หนา แน่น สีขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ปลูกในพื้นที่ตำบลคลองน้อย บางไทร บางใบไม้ บางชนะ และคลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายละเอียดเพิ่มเติม : https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2025/01/GIregistration240-กระท้อนคลองน้อย.pdf สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดือนมกราคม, 2568

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้ การเตรียมดินใช้ดินทราย 2 ส่วน ขี้วัว 1 ส่วน และผสมไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันเชื้อรา เพาะเมล็ดแช่เมล็ดในน้ำอุ่น จากนั้นซับด้วยกระดาษทิชชู่ 1 คืน เลือกต้นที่มีรากลงในถาดเพาะ 7-10 วัน แล้วจึงนำลงกระถาง เข้าโรงเรือนที่มีมุ้งสีขาวขนาด 32 ตา ให้น้ำและใส่ปุ๋ยให้น้ำทุกวัน วันละ 3 รอบ เช้า กลางวัน เย็น การใส่ปุ๋ยหลังจากนำลงกระถาง วันเว้นวัน วันที่ 2-24 ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 วันที่ 26-44 ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 วันที่ 46-60 ใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 โดยใช้ปุ๋ยแต่ละสูตร 500 กรัม ต่อน้ำ 100 ลิตร การเก็บเกี่ยวเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 65 เป็นต้นไป น้ำหนักผลละประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม ความหวานไม่น้อยกว่า 14 Brix 1 ปี สามารถปลูกได้ 3 รอบ จำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

ลิ้นจี่จักรพรรดิฝาง

ลิ้นจี่จักรพรรดิฝาง

ลิ้นจี่จักรพรรดิฝาง (ลิ้นจี่จักรพรรดิเชียงใหม่) จ.เชียงใหม่ ลิ้นจี่จักรพรรดิฝาง เป็นผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่ มากกว่า 60 ปี ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม เนื้อหนาสีขาวขุ่น ฉ่ำน้ำ ทรงผลคล้ายรูปหัวใจ มีขนาดใหญ่ เปลือกหนาสีแดงอมชมพู จึงเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อ ปลูกในพื้นที่อำเภอฝาง แม่อาย และอำเภอไชยปราการ ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีแหล่งน้ำธรรมชาติหลายสาย อีกทั้งมีน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ จึงทำให้ดินและน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและรสชาติของลิ้นจี่ อีกทั้งมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ประกอบกับเกษตรกรดูแลแปลงปลูกเป็นอย่างดี มีการบำรุงต้น ตัดแต่งกิ่ง ตัดแต่งช่อ ส่งผลให้ลิ้นจี่จักรพรรดิฝางมีผลผลิตสูง และมีคุณภาพดี รสชาติอร่อย ผลิตภายใต้มาตรฐานเกษตรปลอดภัย GAP เป็นที่ต้องการของตลาด ที่มา : โครงการจัดทำสื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการสร้างอัตลักษณ์ผลไม้ไทย ปี 2567 กรมส่งเสริมการเกษตร

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ (พันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4)

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ (พันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4)

สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ (พันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4) ตรา GI เปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า เกณฑ์การขอใช้ตราสัญลักษณ์ GIผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ใดสวมสิทธิ์ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท สิทธิประโยชน์ของผู้ที่ได้รับอนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทย ที่มา : สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรปราการ

“กล้วยหอมทอง” เรื่องกล้วย กล้วย ที่ไม่กล้วย !

"กล้วยหอมทอง" เรื่องกล้วย กล้วย ที่ไม่กล้วย !

“กล้วยหอมทอง” เรื่องกล้วย กล้วย ที่ไม่กล้วย! การดูแลรักษาต้นกล้วย เตรียมดิน โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยหมักปรับปรุงดิน คลุกเคล้าด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องโรคตายพราย พร้อมกับจัดการระบบน้ำ (แบบน้ำพุ่ง) เพื่อให้กล้วยได้น้ำอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ต้นกล้วยสมบูรณ์และเจริญเติบโตเร็ว จากนั้นจะบำรุงต้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักตลอดอายุของต้นกล้วย วิธีการปลูก จะขยายพันธุ์โดยใช้หน่อกล้วยจากต้นกล้วยที่เก็บผลผลิตแล้ว ซึ่งต้นกล้วย 1 ต้น จะออกหน่อประมาณ 3-5 หน่อ เมื่อเก็บผลผลิตแล้วจะต้องทำการตัดต้นกล้วยนั้นออกทิ้ง เพื่อไม่ให้แย่งอาหาร โดนตัดให้เหลือความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นแม่เป็นอาหารเลี้ยงหน่อเล็ก และเลือกเฉพาะหน่อกล้วยที่โตที่สุด ประมาณ 2-3 หน่อ ตัดแต่งให้มีระยะห่างระหว่างหน่อประมาณ 20-30 เซนติเมตร เพื่อเป็นต้นกล้วยต้นใหม่ที่จะต้องดูแลให้ลูกและผลผลิตต่อไป ในการปลูกรอบต่อไปทำการขยาย โดยเลือกหน่อกล้วยใน 1 กอ ให้กระจายไปเรื่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของโรคในดิน หรือการขุดหน่อเพื่อนำไปปลูกขยายต่อในแปลงใหม่ จะทำหลังจากต้นแม่ให้ผลผลิตแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลและนำเชื้อโรคสู่ต้นแม่ เทคนิคการปลูกกล้วยหอมให้สามารถเก็บผลผลิตได้ง่าย ให้เครือกล้วยหันออกในทิศทางเดียวกัน ทำได้โดยเมื่อเริ่มต้นการปลูก หน่อกล้วยจะมีรอยเฉือนจากกอ ให้หันรอยเฉือนนั้นไปด้านที่เราไม่ต้องการให้เครือกล้วยออก เพราะปลีกล้วยหรือเครือกล้วยจะออกผลตรงข้ามกับรอยเฉือนเสมอ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการเก็บผลผลิตและประหยัดแรงงาน ในการทำสวนอีกด้วย ในขณะที่ต้นกล้วยเจริญเติบโตจนออกปลีและออกผล จะต้องทำการตัดปลีกล้วยทิ้ง โดยตัดให้ห่างจากกล้วยหวีสุดท้าย ประมาณ 15 เซนติเมตร ลดการเกิดโรคและทำให้หวีสุดท้ายมีความสมบูรณ์ หมั่นตัดตกแต่งเปลือกต้นกล้วยที่แห้งและเน่าออกอยู่เสมอ รวมไปถึงตัดหน่อกล้วยที่ไม่เหมาะสมหรือที่ออกมามากเกินความต้องการออกไปด้วย เพื่อให้ต้นและเปลือกต้นกล้วยเติบโตอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันแมลงมาเจาะต้นกล้วยอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานเกษตรอำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา