ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

10

เรื่องล่าสุด

ขอเชิญพี่น้องชาวกรมส่งเสริมการเกษตร เข้าร่วมสนุกกับกิจกรรม “DOAE ผ้าไทยใครใส่ก็ดูดี ปี 3 ” ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ 2568 โพสต์ภาพสวมใส่ผ้าไทยพร้อมอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์ ชิงรางวัลพิเศษ กติการ่วมสนุก 1. ส่งภาพการแต่งกายผ้าไทยหรือผ้าพื้นเมืองพร้อมอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์ของท่าน มายัง>> https://forms.gle/yToRbpjHhNhTt93AA  โดยภาพที่โพสต์ ท่านสามารถครีเอทท่าทาง ตกแต่งภาพได้ไม่จำกัดไอเดีย ไม่จำกัดจำนวนคนในภาพ ใส่แคปชันเก๋ ๆ ในภาพได้

มะม่วงน้ำดอกไม้ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว (GI) มะม่วงน้ำดอกไม้พันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง ที่มีทรงผลรี เปลือกผิวบาง เมื่อสุกมีสีเหลืองถึงสีเหลืองทอง เนื้อสีเหลืองอมส้ม ปริมาณเส้นใยน้อย เมล็ดลีบ ผลดิบมีรสชาติเปรี้ยว เมื่อสุกจะมีรสชาติหวาน กลิ่นหอม ปลูกในเขตพื้นที่อำเภอวังน้ำเย็นของจังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว” เมื่อ 3 พ.ค. 2562

โรคจุดดำ หรือ โรคแอนแทรคโนสในมะม่วง เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides เข้าทำลายพืชได้ทุกระยะการเจริญและเกือบทุกส่วนของมะม่วง ไม่ว่าจะเป็นต้นกล้า ยอดอ่อน ใบอ่อน ช่อดอก ดอก ผลอ่อนจนถึงผลแก่ และผลหลังการเก็บเกี่ยว ทำให้เกิดอาการเป็นจุดแผลตกค้างอยู่บนใบ กิ่ง ผล และหากการเข้าทำลายของโรครุนแรงก็จะเกิดอาการใบแห้ง ใบบิดเบี้ยวและร่วงหล่น ช่อดอกแห้งไม่ติดผล ผลเน่าร่วงตลอดจนผลเน่าหลังการเก็บเกี่ยว แนวทางการป้องกันแก้ไข

เรื่องเล่าเช้าวันจันทร์ “ศัตรูมะพร้าวและการป้องกัน” ปัจจุบันมีศัตรูมะพร้าวที่กำลังระบาดและเป็นปัญหาในการปลูกมะพร้าว จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ หนอนหัวดำมะพร้าว แมลงดำหนามมะพร้าว ด้วงแรดมะพร้าว และด้วงงวงมะพร้าว สำหรับการจัดการศัตรูมะพร้าว เพื่อให้ได้ผลดีและไม่ให้กลับมาระบาดใหม่ ควรใช้วิธีการป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสานตั้งแต่ 2 วิธีขึ้นไปมาใช้ร่วมกัน เพื่อลดปริมาณศัตรูมะพร้าวให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย การป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแบบผสมผสานคลิกอ่าน : https://bit.ly/2FUDSWS หนอนหัวดำคลิกอ่าน :

เรื่องเล่าเช้าวันจันทร์ “เรื่องเล่า…ชาวกาแฟ กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกที่จะต้องดื่ม บางคนดื่มเพราะความเคยชิน บางคนดื่มเพื่อผ่อนคลาย บางคนดื่มเพราะจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า “กาแฟ” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทางเศรษฐกิจของไทยมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน สายพันธุ์ที่นิยมในประเทศไทย 2 สายพันธุ์ คือ กาแฟอะราบิกาและกาแฟโรบัสตา เมื่อเปรียบเทียบลักษณะเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์ อยากรู้เรื่องราวของกาแฟมากขึ้น คลิกที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ เรื่องเล่า…ชาวกาแฟคลิกอ่าน : https://bit.ly/4hmR8PA การผลิตกาแฟอะราบิกา

หนอนแมลงวันพริก การทำลายในระยะเริ่มแรกจะสังเกตได้ยาก อาจพบอาการช้ำบริเวณใต้ผิวเปลือก เมื่อหนอนโตขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ผลเน่าเละและมีน้ำไหลเยิ้มออกทางรูที่หนอนเจาะออกมาเพื่อเข้าดักแด้ในดิน นอกจากนี้รอยแผลที่เกิดขึ้นจากการวางไข่ของแมลงยังส่งผลให้เชื้อจุลินทรีย์สาเหตุโรคพืชเข้าทำลายตาม ทำให้ผลเน่าและร่วงหล่นก่อนระยะเก็บเกี่ยว ฤดูการระบาดสภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเตือนผู้ปลูกพริก ในระยะเก็บเกี่ยว รับมือแมลงวันทองพริก ตัวเต็มวัยวางไข่ในระยะพริกใกล้เปลี่ยนสี ไปจนกระทั่งผลสุก หนอนกัดกินชอนไชอยู่ภายในผล ทำให้ผลพริกเน่าร่วงหล่น เมื่อหนอนโตเต็มที่จะเจาะออกมาเข้าดักแด้ในดิน แนวทางป้องกัน/แก้ไข เรียบเรียงโดย : กลุ่มอารักขาพืช

หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ลักษณะอาการหนอนชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศมาเลเซีย แล้วระบาดเข้ามาทางภาคใต้ของประเทศไทย การนำเมล็ดพันธุ์จากทางภาคใต้มาเป็นเหตุทำให้หนอนชนิดนี้ติดมาด้วย เกษตรกรจึงเรียกหนอนชนิดนี้ว่า “หนอนใต้” หรือ “หนอนมาเลย์” หนอนชนิดนี้เมื่อเข้าทำลายผลทุเรียนจะไม่สามารถสังเกตจากลักษณะภายนอกได้ หนอนที่เจาะเข้าไปในผลทุเรียนถ่ายมูลออกมาปะปนอยู่กับเนื้อทุเรียน ทำให้เกษตรกรไม่สามารถขายเนื้อทุเรียนสดได้ การแพร่ระบาดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนแพร่ระบาดในพื้นที่ปลูกทุเรียนของภาคใต้และภาคตะวันออก (ระยอง จันทบุรี ตราด) โดยพบระบาดมากระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม แนวทางป้องกัน/แก้ไข เรียบเรียงโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตราด

หนอนชอนใบผัก

หนอนชอนใบผัก การทำลายแมลงวันขนาดเล็ก มีสีดำเหลือง ตัวเต็มวัยเพศเมียวางไข่ใต้ผิวใบตัวหนอนมีลักษณะหัวแหลมท้ายป้าน โดยชอนไชภายในใบ ทำให้เกิดรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา หากระบาดรุนแรงจะทำให้ใบเสียหายร่วงหล่น และตายได้ สามารถเข้าทำลายพืชผักได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูล กะหล่ำ ต้นหอม มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะระ พริก บวบ กระเจี๊ยบเขียว โหระพา แมงลัก รวมถึง

ฟางข้าว=ปุ๋ย

ฟางข้าว=ปุ๋ย นาข้าว 1 ไร่ มีตอซังและฟางข้าว 650 กิโลกรัม >ธาตุอาหารหลัก 23 กิโลกรัม มูลค่า 725 บาท ปริมาณและมูลค่าของธาตุอาหารหลักในตอซังและฟางข้าว มีดังนี้ ***การใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายร่วมกับการไถกลบ ทำให้ตอซังข้าวนิ่ม ไถกลบได้ง่ายขึ้น*** จัดทำโดย : กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี

มะยงชิดนครนายก จ.นครนายก

มะยงชิดนครนายก จ.นครนายก

มะยงชิดนครนายก จ.นครนายก มะยงชิด เป็นผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่นของจังหวัดนครนายก มีผลใหญ่ รูปไข่ สีเหลืองส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม เนื้อหนา แน่น กรอบ ด้วยจังหวัดนครนายกมีลักษณะ ภูมิประเทศทางตอนเหนือและตะวันออก เป็นภูเขาสูงชัน ติดต่อกับเทือกเขาดงพญาเย็น ทางตอนกลางและใต้เป็นที่ราบอันกว้างใหญ่ มีความลาดเอียงลงมาทางใต้เล็กน้อย เกิดการสะสมตัวของตะกอนที่ถูกพัดพามาโดยน้ำตามความลาดชันของภูเขาโดยสะสมตัวบนหินฐานรากที่เป็นหินปูน ลักษณะของตะกอนชุดนี้ประกอบด้วยดินเหนียวปนทรายสลับกับชั้นกรวด ซึ่งดินในลักษณะนี้มีความพิเศษคือสามารถอุ้มน้ำได้ดี มีช่องว่างของเม็ดดิน จึงทำให้การระบายน้ำและการถ่ายเทของอากาศในดินดี ประกอบกับสภาพอากาศหนาวสลับร้อน ทำให้จังหวัดนครนายกเป็นแหล่งผลิตมะยงชิดที่ขึ้นชื่อของประเทศ มีรสชาติและลักษณะที่โดดเด่น จนได้รับการตั้งชื่อว่า “มะยงชิดนครนายก” และจังหวัดนครนายกกำหนดจัดงานมะยงชิดมะปรางหวานนครนายกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคม ของทุกปี ที่มา : โครงการจัดทำสื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการสร้างอัตลักษณ์ผลไม้ไทย ปี 2567 กรมส่งเสริมการเกษตร

จุลินทรีย์หน่อกล้วย

จุลินทรีย์หน่อกล้วย

ส่งเสริมไม่เผาด้วย 3R Model น้ำหมักย่อยสลายฟาง “จุลินทรีย์หน่อกล้วย” วัตถุดิบ วิธีทำ การนำไปใช้ใช้น้ำหมักชีวภาพอัตรา 5 ลิตรต่อไร่ เจือจางกับน้ำ 100 ลิตร ราดลงในแปลงข้าวเพื่อช่วยให้ตอซังข้าวย่อยสลายได้ง่าย หมักไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจึงปั่นดินนาทำเทือกเพื่อเตรียมเพาะปลูกข้าวครั้งใหม่ต่อไป เรียบเรียงโดย : สำนักงานเกษตรอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี กุมภาพันธ์ ; 2568

กล้วยน้ำว้าเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ พันธุ์สุโขทัย 1

กล้วยน้ำว้าเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ พันธุ์สุโขทัย 1

กล้วยน้ำว้าเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ พันธุ์สุโขทัย 1 คุณค่าทางโภชนาการ ต่อกล้วยน้ำว้า 100 กรัม วิธีการปลูก การดูแลรักษา การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในเดือนแรกอัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น เดือนที่ 3 และเดือนที่ 6 อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น การไว้หน่อ หลังจากปลูกกล้วย 5-6 เดือน จะมีหน่อขึ้นมารอบ ๆ โคน ควรทำลายหน่อทิ้งแล้วไว้หน่อในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อทดแทนต้นแม่ โดยให้หน่อที่ 1 และ 2 อายุห่างกัน 4 เดือน เทคนิคไว้หน่อคือ การเก็บเกี่ยว เดือนที่ 11 เตรียมถุงห่อกล้วย และนับวันกล้วยน้ำว้า 80-100 วัน ค่อยตัด ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กิโลกรัม/ไร่/ปี ได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 22,500 บาท/ไร่/ปี การป้องกันโรคตายพรายใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ในอัตรา 100-200 กรัม/หลุม คลุกเคล้ากับดินในหลุมก่อนปลูกกล้วย เมื่อพบกล้วยแสดงอาการของโรค ให้ขุดต้นที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้วโรยด้วยปูนขาวบริเวณหลุมที่ขุดต้นเป็นโรคออกไป อัตรา 1-2 กิโลกรัม/หลุม อุปกรณ์การเกษตร เมื่อใช้กับต้นที่เป็นโรคควรทำความสะอาดก่อนนำไปใช้ใหม่ ในแปลงที่มีการระบาดของโรค ควรเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน ข้อมูลโดย : ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 1 จังหวัดชลบุรี กร

กระท้อน คลองน้อย

กระท้อน คลองน้อย

กระท้อน คลองน้อย สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ลำดับที่ 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระท้อนพันธุ์อีล่าและพันธุ์ปุยฝ้าย จากแหล่งปลูกที่เป็นดินสองน้ำ (น้ำจืดผสมน้ำกร่อย) ทรงผลค่อนข้างกลม ผิวเปลือกสีเหลืองทอง เปลือกบาง เนื้อหนา ไม่ฝาด ปุยหรือเนื้อหุ้มเมล็ดฟู หนา แน่น สีขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ปลูกในพื้นที่ตำบลคลองน้อย บางไทร บางใบไม้ บางชนะ และคลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายละเอียดเพิ่มเติม : https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2025/01/GIregistration240-กระท้อนคลองน้อย.pdf สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดือนมกราคม, 2568

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้

ปลูกเมล่อนในโรงเรือนสร้างรายได้ การเตรียมดินใช้ดินทราย 2 ส่วน ขี้วัว 1 ส่วน และผสมไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันเชื้อรา เพาะเมล็ดแช่เมล็ดในน้ำอุ่น จากนั้นซับด้วยกระดาษทิชชู่ 1 คืน เลือกต้นที่มีรากลงในถาดเพาะ 7-10 วัน แล้วจึงนำลงกระถาง เข้าโรงเรือนที่มีมุ้งสีขาวขนาด 32 ตา ให้น้ำและใส่ปุ๋ยให้น้ำทุกวัน วันละ 3 รอบ เช้า กลางวัน เย็น การใส่ปุ๋ยหลังจากนำลงกระถาง วันเว้นวัน วันที่ 2-24 ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 วันที่ 26-44 ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 วันที่ 46-60 ใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 โดยใช้ปุ๋ยแต่ละสูตร 500 กรัม ต่อน้ำ 100 ลิตร การเก็บเกี่ยวเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 65 เป็นต้นไป น้ำหนักผลละประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม ความหวานไม่น้อยกว่า 14 Brix 1 ปี สามารถปลูกได้ 3 รอบ จำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว